post

จะทำ SEO แบบสายดำหรือสายขาวดี?

แน่นอนว่าการทำ SEO นั้นมีทั้งสายดำหรือ black hat และสายขาวหรือที่เราเรียกว่า white hat นั่นเอง โดยการทำ SEO ทั้ง 2 แบบนี้มีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมหาศาลเลยล่ะ ถ้าอยากรู้ว่าจะเลือกใช้วิธีของสายดำหรือสายขาวดีกว่ากัน เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันได้เลย

ทำ SEO วิธีของสายดำหรือสายขาวดี

ใคร ๆ ก็รู้ว่า SEO สายดำได้คะแนนไวแต่ก็ตายไปจาก search engine ไว

แน่นอนว่าการทำ SEO สายดำ เป็นการเน้นที่ปริมาณจึงทำให้เกิด traffic ได้อย่างรวดเร็วและเป็นจำนวนมากโดยที่ไม่ต้องใช้เวลานานมาก แต่ในทางตรงกันข้ามของระยะยาวนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะจะโดน Google จับได้และจัดการล้างบางไปเป็นระยะ ๆ

SEO สายขาวทำได้ช้าแต่ได้พร้าเล่มงาม

แม้ว่าสายขาวจะใช้เวลาในการทำ SEO นานกว่า แถมยังต้องมีวิธีการวัดคะแนนหลายอย่างจนคนทำ SEO ท้อไปบ้าง แต่ในระยะยาวนั้น สายขาวจะอยู่ได้นานกว่าและมีโอกาสที่จะเติบโตได้มากกว่าสายดำหลายเท่า

สายดำกลายเป็นสิ่งที่ search engine บอกไว้เลยว่าเป็น spam

ตัวอย่างของการทำ SEO ที่ Google อาจให้เป็น spam ก็คือการทำ backlink โดยการโพสต์เนื้อหาบนเว็บบอร์ดที่ไม่อนุญาตให้มีการทำโฆษณาหรือแปะ link ที่ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับกระทู้นั่นเอง

search engine สนับสนุนให้มีการทำ content ที่มีคุณภาพซึ่งเป็นวิถีของสายขาว

การทำ content ถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำ SEO เลยล่ะ ซึ่งเป็นวิถีการทำ SEO ของสายขาวและ search engine เองก็ชื่นชอบ content ที่มีความเป็น unique สดใหม่ น่าอ่านและมีคุณภาพด้วยเช่นกัน

ค่าจ้างคนทำ SEO สายดำอาจถูกกว่า แต่มูลค่าก็ลดลงตามหรืออาจไม่มีเลย

อย่างที่เราบอกไปแล้วว่าการทำ SEO สายดำนั้นจะเป็นการเน้นปริมาณล้วน ๆ แต่ไม่มีการกำหนดคุณภาพของผลงานที่ได้ ฉะนั้นหากคุณคาดหวังให้เว็บไซต์ของคุณเกิดมูลค่าด้วยการทำ SEO สายดำนั้น ถือเป็นความคิดที่ผิดที่ต้องรีบเปลี่ยนแล้วล่ะ

อัลกอริทึมของ search engine มีช่องโหว่น้อยลง

การทำ SEO สายดำนั้นจะเป็นการใช้ช่องโหว่ของ search engine มาใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ยิ่งเทคโนโลยีของเราก้าวหน้าไปเท่าไหร่ ช่องโหว่เหล่านี้ก็ถูกปิดลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้สายดำมีโอกาสในการแงะช่องโหว่ของ search engine น้อยลง

พอมาถึงตรงนี้แล้ว คุณได้เห็นแล้วว่าการทำ SEO ของแต่ละสายนั้นให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน โดยมีแนวทางและวิธีการที่แตกต่างกัน เอาล่ะ! ทีนี้ก็ถึงตาคุณแล้วว่าจะเลือกทำ SEO แบบสายดำหรือสายขาวดี?

จะทำ SEO แบบสายดำหรือสายขาวดี

post

บทความ SEO ที่ดี ต้องมีลักษณะอย่างไร

การทำเว็บไซต์ให้มีผู้ติดตามและสื่อสารถึงผู้อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องศึกษาการเขียนบทความ SEO ที่ดีที่ทำให้สามารถถูกสืบค้นง่ายจาก search engine และมีคุณค่าแก่ผู้อ่านในระยะยาว ดังนี้

บทความ SEO ที่ดี ต้องมีลักษณะอย่าง

มีความรู้จริงในสิ่งที่เขียน

ปัจจุบัน ผู้อ่านมีทางเลือกมากมายในการหาความรู้และการหาคำตอบในเรื่องที่สงสัยจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั้งภาษาไทยและต่างประเทศ บทความที่ดีจึงต้องเน้นที่สาระ ความถูกต้องของเนื้อหา มีมุมมองทั้งเชิงลึกและกว้างในสิ่งที่เขียน จึงจะทำให้ผู้อ่านติดตาม ซึ่งการจำกัดจำนวนคำไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญเสมอไป การมีความยาวมาก หากเป็นส่วนพรรณนาที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ หรือเป็นการส่งเสริมการขายเสียส่วนใหญ่ ผู้อ่านก็ย่อมไม่ประทับใจ และอาจไม่เข้ามาอ่านเพจอีก

การมีคีย์เวิร์ด SEO ที่เหมาะสม

ในแต่ละบทความ ต้องมีการกำหนดคีย์เวิร์ดเพื่อเป็นแนวทางในการเขียน มีวัตถุประสงค์ในการสร้างเนื้อหาที่ชัดเจน และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้อ่านเป้าหมาย การวิจัยคีย์เวิร์ด SEO จึงมีบทบาทมากต่อการทำ content การเลือกเพียงหนึ่งคีย์เวิร์ดต่อบทความ จะยิ่งเพิ่มความชัดเจนในเนื้อหา

โดยควรศึกษาจาก google search ซึ่งแสดงผลคีย์เวิร์ดที่ผู้คนนิยมสืบค้นทั้งในปัจจุบันและย้อนหลัง ซึ่งเรียกว่า short tail keywords เช่น เสื้อผ้า นมผง รองเท้า ฯลฯ เมื่อคุณได้คีย์เวิร์ดที่ตรงกับสินค้าและบริการของคุณแล้ว ก็นำมาสร้างเป็น long tail keywords เพื่อใช้ใส่ในบทความของคุณต่อไป เช่น เสื้อผ้าวัยรุ่นแบรนด์ xxx รองเท้า กีฬา แบรนด์ XXX นมผงเด็กวัยแรกเกิด เป็นต้น

กระจายคีย์เวิร์ดให้ทั่วทั้งบทความ

การมีคีย์เวิร์ดอย่างเดียวในหนึ่งหรือสองจุดของบทความจะมีนัยสำคัญไม่มากพอจะทำให้เนื้อหาสาระดี ๆ ของคุณถูกสืบค้นได้ง่ายผ่าน search engine อย่าง google yahoo โดยหลักการแล้ว ควรมีคีย์เวิร์ด SEO กระจายอยู่ใน 5 จุด ต่อไปนี้

1. ส่วนหัวต้นเรื่อง หรือtitleของบทความที่ต้องสั้น กระชับ และตรงประเด็น

2. ส่วน URL address หรือที่อยู่ของหน้าเพจที่ควรใส่คีย์เวิร์ดเป็นภาษาอังกฤษเสมอเพื่อป้องกันการพิมพ์วรรณยุกต์หรือตัวสะกดผิด

3. บทบรรยายย่อหน้าแรก หรือ description เป็นส่วนที่เจ้าของเว็บไซต์สามารถปรับแต่งได้ด้วย SEO plugin

4. ส่วนหัวข้อย่อยในบทความ หรือ Heading เช่น คีย์เวิร์ดว่า Nike ก็ควรมีหัวข้อย่อยว่า Nike มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ปัจจุบัน ใครเป็น presenter ที่โดดเด่น ของผลิตภัณฑ์ Nike เป็นต้น

5. การตั้งชื่อภาพประกอบในบทความ ควรมีคีย์เวิร์ดอยู่ด้วยเสมอ

บทความ SEO ที่ดี ต้องมีลักษณะอย่างไร

เมื่อศึกษาส่วนประกอบของบทความ SEO ที่ดีจนสามารถสร้างผลงานที่มีคุณภาพ นำเสนอบนเว็บไซต์ของคุณเป็นประจำ จะทำให้เว็บไซต์มีผู้อ่านติดตามอย่างต่อเนื่องและนำมาสู่ยอดขายสินค้าที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาวด้วย