post

งงไหมจะใช้ SEO หรือ SEM?

เชื่อว่าผู้ประกอบการหลายท่านที่เป็นมือใหม่ในวงการตลาดออนไลน์ อาจมีความสงสัยว่า SEO กับ SEM คืออะไร แบบไหนจะดีกว่ากัน แล้วผู้ประกอบธุรกิจจะเลือกใช้อะไรดี จึงจะสามารถเพิ่มยอดขายให้ได้มากขึ้น วันนี้เรามาเรียนรู้ไปด้วยกันในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 

1. ความหมาย

SEO (search engine optimization) หมายถึงการทำการตลาดออนไลน์ผ่านระบบปฏิบัติการค้นหาเพื่อให้ถูกจัดอันดับให้อยู่บนหน้าแรก (ในที่นี้หมายถึง google) โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินค่าโฆษณาให้ google ส่วน SEM (search engine marketing) ถือว่าเป็นวิธีการทำให้คนรู้จักเว็บไซต์เหมือนกันกับ SEO แต่แตกต่างกันตรงที่ต้องจ่ายค่าโฆษณา ส่วนสิ่งที่เหมือนกันของการนำ SEO และ SEM มาใช้ในการทำการตลาดคือทั้งสองอย่างจำเป็นต้องมี keyword (คำที่ใช้ค้นหา)

2. การวางแผน-เตรียมการ 

การทำ SEO จะมีความยุ่งยากมากกว่า SEM เพราะจะต้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ เรียกได้ว่าต้องเตรียมการตั้งแต่ก่อนลงมือทำเว็บไซต์เลยทีเดียว เพราะการทำ SEO ต้องมีการเขียนบทความโดยใช้ keyword ที่มีเนื้อหาเกี่ยวโยงสัมพันธ์กันซึ่งอาจต้องใช้หลายบทความและแต่ละบทความต้องสามารถลิงก์หากันได้อย่างลงตัว

หากท่านจินตนาการไม่ออกก็ลองคิดถึงภาพยนตร์จักรวาลทั้งหลายนั่นแหละ ที่โด่งดังที่สุดก็เห็นจะเป็นหนังจักรวาลของมาเวล  ไม่ทราบว่าเคยดูกันบ้างหรือเปล่า ทั้งเรื่องแย่งกันดีดนิ้วเพื่อลดจำนวนประชากร ส่วนการทำ SEM ไม่จำเป็นต้องใช้บทความมากมาย บางเว็บไซต์ใช้แค่บทความเดียว ขอแค่เป็นบทความที่ใช้ keyword ที่สื่อถึงสินค้าหรือบริการก็พอ 

ส่วนการซื้อโฆษณาบน google หรือ SEM จะใช้ระบบที่เรียกว่า pay per click คือการซื้อโฆษณาในรูปแบบที่มีการเรียกเก็บเงินตามจำนวนคลิก คนใช้งานคลิกมากก็จ่ายมาก ผ่านรูปแบบการประมูล keyword คำไหนที่มีคนใช้เยอะก็ต้องจ่ายแพง  เพื่อดันโฆษณาเว็บไซต์ให้ไปปรากฏบนหน้าแรกของ google

3. ระยะเห็นผล

SEO ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานเพราะเป็นการทำการตลาดที่เรียกว่า organic ซึ่งเป็นศัพท์ทางการตลาดหมายถึงไม่ซื้อโฆษณานั่นเอง การทำ SEO ให้ได้ผลอาจต้องใช้เวลา 6 เดือนหรือมากกว่านั้น ส่วน SEM ใช้เวลาสั้นกว่ามาก หากต้องการความรวดเร็วคงต้องหันไปใช้ บริการ SEM 

4. ความยั่งยืน

SEO ทำครั้งเดียวจบสามารถอยู่บนหน้าหนึ่งของ google ได้ตลอดไปตราบเท่าที่ยังไม่มีคู่แข่ง ส่วนการทำ SEM เสียเปรียบตรงที่หากผู้ประกอบการรายใดต้องการอยู่บนหน้าหนึ่งต่อไปต้องจ่ายค่าโฆษณาเพิ่มหยุดจ่ายเมื่อไหร่ถูก google ดีดนิ้วหายไปจากหน้าหนึ่งทันที

หากจะให้ตัดสินว่า ระหว่าง SEO กับ SEM อันไหนดีกว่ากันคงตอบยาก เพราะสุดแล้วแต่ว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจะวางกลยุทธ์ในการขายอย่างไร  ถ้าต้องการเห็นผลไวก็ต้องเลือก SEM แต่ถ้าต้องการประหยัดเน้นหวังผลระยะยาวก็ต้องเลือก SEO หรืออาจจะทำไปพร้อม ๆ กันก็ได้