post

SEO สายดำ ทำแล้วดีจริงหรือ

การทำ SEO เป็นเทคนิคในการทำให้เว็บไซต์ของธุรกิจ ติดอันดับหน้าหนึ่งบน Search Engine ซึ่งเทคนิคที่นักการตลาดออนไลน์ส่วนใหญ่ใช้จะเป็นการหา Keyword ที่มีกลุ่มเป้าหมายค้นหาเยอะแล้วนำมาเขียนเป็นบทความ SEO ที่มีจำนวนคำตั้งแต่ 300 คำขึ้นไป และต้องเป็นบทความที่มีสาระหรือเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน โดยต้องโพสต์เป็นประจำวันละ 1 บทความเป็นอย่างน้อยติดต่อกันประมาณ 1 – 2 เดือน ซึ่งหากการแข่งขันใน Keyword ที่นำมาใช้ไม่สูงเกินไปก็อาจทำให้ติดอันดับบนหน้าแรกของ Search Engine ได้ไวขึ้น

แต่สำหรับการทำ SEO ใน Keyword ที่มีการแข่งขันสูง เช่น กลุ่มคำเกี่ยวกับปัญหาผิวหน้า ผิวกาย หรือสัตว์เลี้ยง เป็นต้น การทำ SEO สายขาวอย่างข้างต้นอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะติดอันดับบนหน้าแรกของ Search Engine หรือไม่แน่ว่าอาจจะไม่มีทางสู้ ทำให้นักการตลาดออนไลน์หลายคนหันไปพึ่งการทำ SEO สายดำ เพราะช่วยให้การติดอันดับหน้าแรกบน Search Engine ได้เร็ว แม้จะต้องทำหลายอย่างที่เป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดของ Search Engine

วิธีการทำ SEO สายดำ (ที่ไม่ควรทำ) มีดังนี้

การทำ Backlink มากเกินไปในระยะเวลาอันสั้นอาจทำให้ Search Engine เห็นว่ามีการทำ SEO ที่มากเกินไป ซึ่งในครั้งแรกที่ถูก Search Engine ตรวจจับได้ Search Engine จะส่งข้อความเตือนเพื่อให้หยุดการกระทำดังกล่าว ซึ่งหาก Search Engine พบว่ายังมีอยู่เว็บไซต์ก็จะตกอันดับลงและถูกมองว่าเป็นเว็บไซต์ไม่น่าเชื่อถือ

การแลกลิงก์กับเว็บไซต์ที่ไม่ใช่เว็บที่มีเนื้อหาหรือ keyword ที่เกี่ยวข้องกัน เนื่องจากในปัจจุบัน AI บน Search Engine มีความฉลาดมากขึ้น ทำให้ตรวจจับการแลกลิงก์ได้เร็วขึ้น และหากพบว่ามีการแลกลิงก์กับเว็บไซต์ที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง เว็บไซต์ของเราจะถูก Search Engine มองว่าเป็นเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือและเป็นอันตราย

ใส่ keyword ในบทความมากเกินไปเพราะหวังว่าจะขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ ของเว็บไซต์ที่ทำ keyword นั้น ๆ แต่ด้วยความฉลาดของ AI ทำให้การแทรก keyword ที่มากเกินความจำเป็นและการเขียนเนื้อหาที่ไม่สามารถอ่านรู้เรื่องได้ จะทำให้เว็บไซต์ไม่น่าเชื่อถือ

แม้จะเป็นบทความของตัวเอง แต่การนำบทความเดิมมารีโพสต์บนเว็บไซต์ใหม่อาจทำให้กลายเป็นการลอกเลียนผลงานได้ ซึ่งหากต้องการที่จะนำบทความเดิมมาใช้ใหม่ ควรเรียบเรียงบทความใหม่หรือที่เรียกว่าการ Rewrite เพื่อป้องกันการที่ Search Engine มองว่าเว็บไซต์ใหม่นั้นเป็นเว็บไซต์ลอกเลียนที่ไม่ได้คุณภาพ

การแทรกลิงก์ในคำสำคัญที่มากเกินไปเพื่อให้ผู้ใช้ Click ไปยังหน้าซื้อสินค้าหรือบริการ ทำให้เว็บไซต์ถูกมองว่าเป็นเว็บที่ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน

โดยสรุปแล้วการทำ SEO สายดำไม่ได้ดีอย่างที่คิด เพราะแทนที่จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ อาจกลายเป็นร่วงจากอันดับและถูกมองว่าเป็นเว็บไซต์อันตราย หรือไม่ได้คุณภาพในที่สุด

SEO สายดำ ทำแล้วดีจริงหรือ

post

จะเป็นนักเขียน SEO ต้องรู้อะไรบ้าง

การเป็นนักเขียน SEO เป็นอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝันเพราะมีตลาดงานที่กว้าง สอดคล้องกับการทำ SEO หรือ search engine optimization ให้ธุรกิจยุคใหม่หลากหลายประเภท อันเป็นส่วนหนึ่งของเทคนิคการทำตลาดออนไลน์ที่นิยมมากในปัจจุบัน

งานนักเขียน SEO ต้องมีการเรียนรู้และปรับเปลี่ยนไป แนวทางที่ Google กำหนดและเพิ่มเติมเรื่อย ๆ ในแต่ละปี เรามาดูกันว่าในปี 2020 นี้ การเป็นนักเขียน SEO ต้องทำอะไรบ้าง

นักเขียน SEO ต้องทำอะไรบ้าง

การกำหนดเนื้อหา บทความ SEO การใส่รายละเอียดในบทความ SEO จะต้องเข้ากับ keyword ที่สืบค้นหรือวิจัยมาแล้วว่าเหมาะสม ตรงกับการพิมพ์ในช่องสืบค้นหรือ google search ของลูกค้าเป้าหมาย และจะต้องเขียนโดยการวิเคราะห์ว่า ผู้อ่านต้องการที่จะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับอะไร เช่น หากคุณต้องการเขียนเรื่องมือถือรุ่นใหม่ที่ออกมา ก็ควรเข้าถึงมุมมองของผู้ที่กำลังมองหามือถือเครื่องใหม่ ว่าต้องการรู้ถึงรายละเอียดที่แตกต่างกับรุ่นเดิม ๆ ด้านใดบ้าง จึงจะทำให้บทความมีทางความน่าสนใจและตรงกับการค้นหาอย่างแท้จริง

การวางตำแหน่งของ keyword นอกจากผู้เขียนต้องใส่ keyword ในบทความแล้ว ยังต้องใส่อยู่ในองค์ประกอบด้านอื่น ๆ ให้ครบถ้วนด้วย เช่น

ส่วนของหัวเรื่องหรือ title เพื่อการดึงดูดใจให้คนอ่าน

ส่วนของ URL address ของบทความนั้น ๆ

ส่วนของ Meta Description หรือบทบรรยายสั้น ๆ ประมาณ 100 คำ ที่เป็นการแนะนำบทความกระตุ้นให้คนคลิกอ่านบทความฉบับเต็มในเว็บไซต์

ส่วนหัวข้อย่อยในบทความ เปรียบเหมือนสารบัญอย่างย่อ

การอธิบายรูปภาพประกอบบทความ ที่จะต้องใส่ keyword เดียวกับบทความด้วย โดยใส่ใน alt text จะทำให้ได้รับผู้ชมจากการค้นหารูปภาพที่ตรงประเด็นมากขึ้น

การศึกษาวิธีการทำทั้ง 5 จุดที่กล่าวมา จะทำให้เพิ่มโอกาสในการถูกสืบค้น และทำให้อันดับ SEO ของเว็บไซต์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้นักเขียนได้รับการจ้างงานสม่ำเสมอยิ่งขึ้นนั่นเอง

ความเป็นธรรมชาติในเนื้อหาบทความ SEO แม้ว่าจะต้องมีการใส่ keyword ในจุดต่าง ๆ กระจายทั่วบทความ แต่ก็ไม่ควรที่จะซ้ำบ่อยเกินไป เทียบเป็นอัตราส่วน 2.5% หรือ 100 คำ จะมี keyword ไม่เกิน 3 ครั้งและต้องเลือกใช้ในประโยคอย่างเหมาะสม ไม่กระทบต่อการสื่อความหมายต่าง ๆ อันจะทำให้การสื่อสารผิดพลาดหรือรบกวนสายตาผู้อ่าน

ความสดใหม่ของบทความ เนื้อหาบทความ SEO ที่ดีต้องคิดและเขียนขึ้นใหม่ด้วยตัวเอง ไม่มีการคัดลอกจากแหล่งอื่น ๆ เพราะจะทำให้ระบบ algorithm ตรวจสอบได้ว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ จะทำให้อันดับ SEO ของเว็บไซต์ที่นำบทความที่มีการคัดลอกไปใช้นั้น ถูกลดอันดับไปอยู่ด้านล่าง ๆ ได้

จะเห็นได้ว่า นักเขียน SEO จำเป็นต้องรู้หลักการในการทำอย่างเหมาะสม และพัฒนาตัวเองเสมอเพื่อให้ตอบโจทย์การทำธุรกิจออนไลน์ได้ดีที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีคอร์สสอนการทำ SEO อยู่มาก ควรที่จะศึกษาและลงเรียนในคอร์สที่มีวิทยากรมืออาชีพ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น

จะเป็นนักเขียน SEO ต้องรู้อะไรบ้าง