post

รวม 4 วิธีการทำ SEO แบบเน้น ๆ สำหรับการต่อยอดธุรกิจ

หลาย ๆ ธุรกิจมีการเติบโตและมีความมั่นคงมากขึ้นจากการทำการตลาดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ใครที่อยากจะพัฒนาหรือต่อยอดธุรกิจให้ไปไกลขึ้น ต้องไม่ลืมจุดสำคัญของช่องทางออนไลน์อย่างเว็บไซต์ ซึ่งสามารถที่จะยกระดับและพัฒนาเว็บไซต์ผ่านการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์เป็นเว็บไซต์อันดับต้น ๆ สำหรับหน้าการค้นหาจาก search engine 

  1. ปรับปรุงคอนเท้นต์ภายในเว็บไซต์ให้มีความสดใหม่และมีความน่าสนใจ โดยเนื้อหาภายในนั้นควรที่เป็นเนื้อหาที่เขียนขึ้นมาเอง มีการแก้ไข เรียบเรียงใหม่ให้สามารถเข้าใจได้ง่าย ตอบโจทย์ผู้และเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านอย่างแท้จริง เนื้อหาและคีย์เวิร์ดก็ต้องมีความสัมพันธ์กัน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีความสอดคล้อง สามารถตอบคำถามผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ ยิ่งถ้าหากว่าภายในเว็บไซต์มีการเข้าชมและผู้ชมให้ความสนใจกับเนื้อหามีการใช้ระยะเวลาในการชมเว็บไซต์ที่นานก็จะทำให้มีโอกาสในการเลื่อนลำดับของเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น
  1. ปรับปรุงเรื่องการดาวน์โหลดเว็บไซต์ให้มีความรวดเร็วขึ้น รวมถึงการทดสอบความเร็วของการดาวน์โหลดเว็บไซต์ด้วยที่ควรต้องทดสอบเป็นประจำ ผู้ชมหลายคนเลือกกดเข้ามาในเว็บไซต์จากหน้าการค้นหาแต่ถ้าหากว่ามีการดาวน์โหลดเว็บไซต์ที่ช้า ทำให้มีช่วงระยะเวลาการรอคอย ก็จะลดโอกาสในการเข้ามารับชมเว็บไซต์และทำให้ผู้ชมอาจเลื่อนผ่าน กดออกไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ 
  1. สร้างการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของตนเองจากเว็บไซต์ภายนอกอื่น ๆ หรือการทำ Link Building Exercise ยิ่งถ้าหากมาจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและมาจากหลากหลายเว็บไซต์ ก็จะทำให้เว็บไซต์ดูมีความน่าเชื่อถือและมีเครดิตมากยิ่งขึ้น ช่วยส่งเสริมให้การเลื่อนอันดับของเว็บไซต์ได้ดีขึ้น
  1. สิ่งสำคัญที่หลายคนอาจหลงลืมไปในระหว่างที่ได้ทำ SEO แล้ว เมื่อผ่านระยะเวลาไปช่วงหนึ่งก็ควรที่จะมีการตรวจสอบหรือ audit SEO ด้วยเช่นกัน เป็นเสมือนการกระตุ้นเตือนให้เจ้าของเว็บไซต์หรือธุรกิจไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือวางใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่โดยที่ไม่ได้มีการพัฒนาเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง โดยจริง ๆ แล้วการทำ SEO นั้นควรที่จะมีการทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างที่จะสังเกตเห็นได้จากเว็บไซต์หลาย ๆ เว็บไซต์มีการผลัดกันขึ้นลงสำหรับอันดับในหน้าการค้นหา เพราะต่างก็มีการทำ SEO และพัฒนาเว็บไซต์อยู่เสมอ ๆ ฉะนั้นถ้าหากเราหยุดก็เท่ากับว่าอาจจะมีคนอื่นแซงหน้าเราไปได้ด้วยเช่นกัน

วิธีการทำ SEO ที่ได้นำมาเสนอข้างต้นเพื่อสามารถนำไปทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพ ตลอดทั้งกระบวนการ ถ้ามีการนำไปพัฒนาและศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเว็บไซต์และทีมงานมืออาชีพด้านการพัฒนาเนื้อหาและโครงสร้างเว็บไซต์ก็จะสามารถทำให้เว็บไซต์ต่อยอดไปได้ไกลมากขึ้น

post

ลองทำ SEO ด้วยตัวเองดีไหม หรือจ้างมืออาชีพต่อไป

ในปัจจุบันเว็บไซต์ธุรกิจจ้างบริษัทรับทำ SEO หรือฟรีแลนซ์ที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีคุณภาพดีขึ้น ด้วยหวังว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา ส่งผลให้เว็บไซต์ติดอันดับดีๆ ในการค้นหาบน Google ทำให้มีโอกาสขายสินค้าหรือบริการเพิ่มมากขึ้น แต่เป็นเพราะค่าใช้จ่ายที่สูงและต้องใช้เวลานานระยะหนึ่งกว่าที่การทำ SEO จะแสดงผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ส่งผลให้ค่าจ้างแพงเกินงบประมาณจนทำให้ธุรกิจขนาดเล็กรับมือไม่ไหวจนถึงขนาดตั้งคำถามกับตัวเองว่าถ้าเริ่มเรียนรู้ลองทำเองจะเป็นได้ไหม

จ้างบริษัท SEO มีข้อดีอย่างไร

ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจขนาดเล็กมักมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณน้อย จึงเป็นธรรมดาที่สตาร์ทอัพและผู้ประกอบการรายย่อยไม่มีเงินมากพอจ้างบริษัทรับทำ SEO แต่ถ้าลองประเมินข้อดี-ข้อเสียแล้ว ย่อมเห็นถึงความคุ้มค่าของการลงทุนจ้างบริษัทที่มีประสบการณ์มาช่วยปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในด้านการตลาดออนไลน์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจประสบความสำเร็จเร็วขึ้น ถ้าธุรกิจในวันนี้ยังต้องโฟกัสกับการขยายตัวเป็นหลัก ควรจ้างบริษัทมืออาชีพทำ SEO ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ตนเองได้โฟกัสกับธุรกิจอย่างเต็มที่

เหตุผลที่การจ้างบริษัทรับทำหรือที่ปรึกษาด้าน SEO เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเนื่องจากความเชี่ยวชาญของมืออาชีพทำให้เห็นผลลัพธ์รวดเร็วกว่าการทำด้วยตัวเองและช่วยให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนด้วย ข้อดีคือบริษัทรับทำ SEO ทำงานด้านนี้ทุกวันจึงมีประสบการณ์และรู้วิธีการใหม่ๆ เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ให้ดีที่สุด ถ้ามีงบประมาณไม่มากพอ สามารถจ้างเป็นรายชั่วโมง รายเดือน หรือจ้างให้ช่วยออกแบบปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดีขึ้นครั้งเดียวโดยไม่จำเป็นต้องผูกมัดในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การทำ SEO เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องไม่มีหยุดเพื่อรักษาอันดับที่ดีไว้ทำให้เสียค่าใช้จ่ายต่อไปเรื่อยๆ จึงเป็นธรรมดาที่หลังจากจ้างมืออาชีพมาช่วยในช่วงเริ่มต้นจนผ่านไประยะหนึ่งแล้วเจ้าของธุรกิจพบว่าค่าใช้จ่ายสูงเกินรับมือไหว หากไม่มีงบประมาณมากพอที่จะจ้างต่อไปจริงๆ คิดว่าจะลงมือทำด้วยตัวเองเพื่อลดค่าใช้จ่ายก็ลองดูได้ไม่เสียหายอะไร ค่อยๆ เรียนรู้และปรับปรุงกันไป

ทำ SEO ด้วยตนเองดีอย่างไร

ในกรณีที่การจัดการธุรกิจค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว ลองเรียนรู้การทำ SEO ก็เข้าท่าดีเหมือนกัน เพราะอย่างน้อยเจ้าของธุรกิจย่อมเข้าใจจุดแข็ง-จุดอ่อนของตนเองดีที่สุด และนำเสนอข้อมูลให้ถูกใจลูกค้าเป้าหมายและมีโอกาสที่จะขายสินค้าได้มากขึ้น ช่วงเริ่มต้นที่จ้างบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าหรือบริการโดยเฉพาะมีความสำคัญมาก เพราะผู้เชี่ยวชาญจะมีความเข้าใจในเชิงลึกและเลือกคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาสูงช่วยให้ตัดสินใจได้ถูกต้องว่าควรใช้คีย์เวิร์ดแบบไหนดี แต่คีย์เวิร์ดนั้นไม่ได้ใช้ต่อเนื่องไปตลอด ต้องติดตามสำรวจพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าที่อาจเปลี่ยนไปจากเดิม หากต้องการลองทำ SEO ด้วยตนเอง สิ่งแรกที่จำเป็นคือการเลือกคีย์เวิร์ดให้เป็นโดยใช้ Keyword Planner ของ Google หรือโปรแกรมดูสถิติอื่นๆ ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทำให้มีโอกาสติดอันดับแรกๆ อย่างต่อเนื่องรวมทั้งเขียนบทความให้รองรับกับ SEO อย่างเหมาะสมจะประหยัดมากกว่าและเห็นผลได้เร็วด้วย

post

Content สำคัญไฉน.. จะสร้างอย่างไรให้มีพลังดึงดูดผู้คนบนโลกออนไลน์

ธุรกิจบนโลกออนไลน์นั้น ใคร ๆ ก็รู้ดีว่ามีความท้าทายและเหนื่อยยากแค่ไหนกว่าที่จะสำเร็จตามเป้าหมายในแต่ละขั้นตอน เพราะโลกออนไลน์คือพื้นที่สาธารณะที่ใครจะมา จะไป หรือจะชักจูงคนรู้จักให้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือเพจร้านค้าสามารถทำได้ตลอดเวลา นั่นหมายความว่าวิธีการที่จะดึงดูดให้คนที่ผ่านไปใครมาหยุด! อยู่ที่เว็บไซต์ของธุรกิจคือจะต้องมี Content ที่ดึงดูดใจหรือให้ประโยชน์ต่อผู้พบเห็นได้ วันนี้จะมาทำความเข้าใจกันว่า Content นั้นสำคัญไฉน จะสร้างอย่างไรให้มีพลังดึงดูดผู้คนบนโลกออนไลน์

Content แปลว่าเนื้อหา หมายถึงรูปแบบในการสื่อสารข้อมูล ประสบการณ์หรือความรู้ หรืออะไรก็ตามที่สามารถสื่อสารไปในช่องทางการสื่อสารที่มีให้ผู้อื่นรู้ว่าผู้ส่งสารต้องการจะสื่อสารอะไรให้กับผู้รับสาร โดยสามารถผลิตออกมาได้ในหลายรูปแบบ ทั้งบทความ คลิปวิดีโอ ภาพกราฟิกหรือแอปพลิเคชันใด ๆ โดยมากแล้ว Content บนโลกออนไลน์ที่คนได้ยินหรือเห็นกันบ่อยคือ Content ทางการตลาดเพราะต้องการจะสื่อสารให้ผู้รับสารได้รับรู้ตัวตนของแบรนด์ธุรกิจบนโลกออนไลน์ที่สามารถแพร่กระจายต่อให้คนอื่น ๆ รู้จักธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นธุรกิจจึงต้องใส่ใจในการผลิต Content ที่มีคุณภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจมากที่สุด ซึ่งจำเป็นจะต้องวางกลยุทธ์ในการผลิต Content อย่างเป็นขั้นตอนดังนี้

  1. รู้จักแบรนด์ของธุรกิจให้มาก อย่างน้อยก็ต้องชัดเจนว่าจุดเด่นของแบรนด์ธุรกิจคืออะไร จะหยิบยกประเด็นไหนขึ้นมาทำเป็น Content เพราะแต่ละแบรนด์ย่อมมีจุดเด่นที่ต่างกันไป เช่น บางแบรนด์เด่นที่มาสคอต บางแบรนด์เด่นที่สินค้าก็ยกเอาจุดเด่นนั้นขึ้นมาสร้างเป็น Content
  2. การสื่อสารที่ดีคือต้องรู้ว่าจะเล่าเรื่องราวให้ใครฟัง หมายถึงแบรนด์ต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะสื่อสารข้อมูลนั้นเป็นคนกลุ่มไหน และคนกลุ่มนั้นจะได้รับประโยชน์อะไรจากเรื่องเล่าของแบรนด์ จะได้สามารถผลิต Content ที่พุ่งเข้าเป้าต่อการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายได้ทันที
  3. รู้จักใช้ Content Pillar มาช่วยในการผลิต Content คือต้องรู้ว่าจะวางเส้นเรื่องของ Content อย่างไร มีประเด็นไหนบ้างที่มีความเชื่อมโยงของแบรนด์กับสิ่งที่ลูกค้าอยากจะรู้ เทคนิคง่าย ๆ คืออาจลองศึกษา Content ของคู่แข่งว่าประเด็นไหนที่คนมีส่วนร่วมกับแบรนด์เยอะหรือน้อยอย่างไร ก็นำประเด็นนั้นมาจัดวางเส้นเรื่องที่ต้องการสื่อสารอย่างเป็นขั้นตอนซึ่งแบ่งออกเป็น
    • Gags คือคำพูดหรือคำฮิตติดหูที่สร้างช่วงเวลาดี ๆ ให้กับกลุ่มลูกค้า
    • Trend / Occasion คือการสร้างโอกาสพิเศษให้กลุ่มเป้าหมายได้เกิดความรู้สึกมีส่วนร่วม ซึ่งอาจเป็นเรื่องราวที่มีกระแสในช่วงเวลานั้นก็ได้
    • Good Moment คือการสร้างช่วงเวลาที่สนุกสนานให้กลุ่มเป้าหมายด้วย Game หรือ Quiz ต่าง ๆ
    • Brand คือการสร้างเนื้อหาของแบรนด์ที่จะสื่อสารให้เป็นภาษาเดียวกับกลุ่มเป้าหมายและสื่อสารในมุมมองของพวกเขา
    • Campaign สื่อสารถึงข้อมูลเกี่ยวกับ Campaign หรือกิจกรรมของแบรนด์

เวลานี้ทุกคนต่างรู้ว่า Content คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ดังนั้นเพื่อให้แบรนด์มีตัวตนอย่างยั่งยืนบนโลกออนไลน์ก็จำเป็นต้องสร้าง Content ให้มีพลังและทรงอิทธิพลต่อกลุ่มเป้าหมาย แบรนด์จึงจะได้ชื่อว่าอยู่ในจิตใจของผู้คนบนโลกออนไลน์ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

post

ผู้ให้บริการทำอันดับเว็บไซต์ ยุค 2022 ต้องรู้ก่อน

ปัจจุบันผู้ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจ ทำหรือกำลังจะทำเว็บไซต์ของตนเอง จำเป็นต้องทำความเข้าใจว่าการทำ SEO คืออะไร และทำประโยชน์ให้ธุรกิจที่มีเว็บไซต์อย่างไรบ้าง สิ่งนี้มีความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากธุรกิจยุคนี้พึ่งพาการตลาดทางออนไลน์และยอดขายจากลูกค้าที่เข้ามาช้อปปิ้งผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วบริการรับทำ SEO คืออะไร เรามาหาคำตอบกันได้เลย

Search Engine Optimization หมายถึงการทำเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ มีเนื้อหาที่มีคุณภาพ และเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ที่ดี ทำให้มีความน่าเชื่อถือ เพื่อรับรองการติดอันดับในหน้าแรก ๆ ของผลการค้นหาเว็บไซต์บน Google ทำให้มีคนเห็นเว็บไซต์มากขึ้น มีโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์สินค้าหรือบริการก่อนคู่แข่ง เพิ่มโอกาสการปิดการขายมากขึ้น มีโอกาสสร้างรายได้ทำกำไรมากขึ้นด้วย แต่การทำ SEO เห็นผลลัพธ์ค่อนข้างช้า ส่วนใหญ่ใช้เวลานานตั้งแต่ 4-6 เดือนขึ้นไป ยิ่งถ้าเป็นมือใหม่ทำไม่ถูกวิธีด้วยแล้ว ก็ยิ่งเห็นผลลัพธ์ช้ามาก นักธุรกิจที่เล็งเห็นประโยชน์ข้อนี้จึงสนใจจ้างบริการรับทำ SEO ซึ่งจำเป็นต้องรู้ว่ามีอะไรบ้าง

บริษัทรับทำ SEO ส่วนใหญ่จะการันตีจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นภายใน 3-4 เดือน แน่นอนว่าจุดนี้มีประโยชน์ แม้ว่าอันดับการแสดงผลการค้นใน Google ไม่ได้เลื่อนอันดับขึ้นรวดเร็วแต่ช่วยให้มีคนเห็นเว็บไซต์ธุรกิจมากขึ้น มีโอกาสเสนอขายได้มากขึ้น สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ได้รับการเลื่อนอันดับจะใช้เวลาค่อนข้างนานเพื่อให้ระบบค้นหารู้จักเว็บไซต์ ประเมินคุณภาพและความน่าเชื่อถือ จึงจะถูกเลือกแสดงผลบนหน้าแรกของ Google ในท้ายที่สุด

รายละเอียดของบริการรับทำ SEO ในเบื้องต้นมีดังนี้

  • วิเคราะห์ว่าลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจนั้นค้นหาอะไร เลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ได้รับความนิยมและเหมาะกับธุรกิจนั้นมากที่สุด โดยนำคีย์เวิร์ดที่ได้ไปใส่ไว้ในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ ทั้งหน้าเพจ บทความ ตั้งชื่อรูป และอื่น ๆ พร้อมทั้งวางกลยุทธ์การตลาดให้คนค้นหามองเห็นธุรกิจนั้นมากขึ้น
  • ปรับปรุงแก้ไขบทความพร้อมกับอัปเดตข้อมูลให้ทันสมัย เล่นคีย์ใหญ่ผลบอล หรือจัดคำรอง บอลเด็ด บอลเต็ง ทีเด็ดบอลเต็ง แทรกคีย์เวิร์ดในการทำ SEO เพื่อให้ Google เข้าใจเว็บไซต์และประเมินความน่าเชื่อถือระดับสูงมากขึ้น
  • ตรวจสอบว่าระบบค้นหาของ Google มีหลักการประเมินอย่างไร ควรทำคียเพื่อปรับกลยุทธ์การทำ SEO ที่เหมาะสม โดยดูแลแนวทางในการทำ SEO อย่างครอบคลุมทั้ง Off-page SEO และ On-page SEO ปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เพื่อให้ได้รับการประเมินผลและจัดอันดับที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังประเมินกลุ่มคนที่เข้าถึงเว็บไซต์ธุรกิจ จำนวนการเข้าใช้งานและจำนวนการคลิกออกด้วย
  • วิธีการสร้าง Backlink กับเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและได้รับการประเมินว่าน่าเชื่อถือ รวมถึงวิธีทำให้เว็บไซต์อื่นใส่ลิงก์ที่คลิกกลับเข้ามาหาเว็บไซต์ของเรา พร้อมกับติด Tracking ต่าง ๆ สำหรับการตรวจสอบวัดผล SEO และทำให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพ
  • รายงานผลความคืบหน้าของการทำ SEO รายเดือนและรายไตรมาส สรุปผลให้ลูกค้าเห็นการเลื่อนอันดับของเว็บไซต์และจำนวนผู้เข้าใช้งานมากขึ้น ผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่

ก่อนตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการรายใด ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือจากผลงานที่ผ่านมา ดูว่าการทำ SEO นั้นสร้างการรับรู้แบรนด์รวมไปถึงประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแค่ไหน พิจารณาจากจำนวนลูกค้าเป้าหมายที่เข้ามาใช้งานมากขึ้น มียอดขายเพิ่มขึ้นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งหากทำ SEO อย่างถูกต้องและได้ปริมาณผู้ชมเพิ่มมากขึ้นตามที่คาดหวัง จะเกิดประโยชน์กับธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ทั้งยอดขายและการรับรู้แบรนด์

post

ข้อดีข้อเสียของ SEO ที่นักธุรกิจออนไลน์ควรรู้ก่อนเลือกทำ

การทำเว็บไซต์ให้เป็นระบบ SEO นั้นเป็นที่นิยมและกล่าวถึงกันอย่างแพร่หลาย แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีนักธุรกิจออนไลน์หลายท่านที่ลังเลใจระหว่างการทำ SEO กับการใช้สื่อโฆษณาอื่น ๆ เราจึงได้รวบรวมข้อดีข้อเสียของการทำ SEO มาฝากกัน

ข้อดีของการทำ SEO

1. ช่วยประหยัดรายจ่ายต้นทุนทางธุรกิจของคุณได้ เมื่อเปรียบเทียบกับเม็ดเงินที่ต้องลงทุนเป็นก้อนโตกับค่าโฆษณาที่ต้องชำระเงินแบบแปรผันตามจำนวนการคลิกหรือที่รู้จักกันว่า PPC (pay per click)

2. ช่วยเสริมแบรนด์สินค้าของคุณให้มีความพรีเมี่ยม ทันสมัย และน่าเชื่อถือมากขึ้น เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าหลักที่นิยมซื้อสินค้าและบริการผ่านทางออนไลน์ เช่น กลุ่มมิลเลนเนียม

3. การทำ SEO ช่วยเพิ่มอำนาจการแข่งขันในท้องตลาดได้มากขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าเว็บไซต์ของแบรนด์ที่มีการอัพเดตและปรับโครงสร้างตามระบบ SEO ย่อมได้รับความนิยมมากกว่าแบรนด์อื่นที่ยังล้าสมัยและไม่อัพเดตให้

4. ทำให้ได้รับการโปรโมตอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง จากการจัดอันดับจากระบบอัลกอริทึ่ม เพราะสายตาของกลุ่มเป้าหมายจะเห็นเว็บไซต์คุณเป็นอันดับต้น ๆ เสมอเมื่อสืบค้นในระบบออนไลน์

5. ช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น จากเดิมอิงลูกค้าเก่าหรืออาศัยทำเลในการขายของแบบออฟไลน์ ให้กลายเป็นลูกค้าแบบ worldwide ไร้ขีดจำกัดทางภูมิศาสตร์ ตลอด 24 ชั่วโมง

6. การใช้คีย์เวิร์ด SEO จะช่วยให้เชื่อมโยงระหว่างธุรกิจคุณกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้าไม่เสียเวลาตระเวนหาร้านที่มีของที่ถูกใจและทางบริษัทเองก็ได้ขายสินค้าแก่กลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นด้วย

ข้อดีข้อเสียของ SEO

ข้อเสียของการทำ SEO

1. ไม่สามารถรับประกันได้อย่างแม่นยำ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าเว็บไซต์หลังการทำ SEO จะมีอันดับสูงขึ้นเพียงใด อย่างมากคือการันตีได้ว่าจะอยู่ใน 10 อันดับต้นของการสืบค้นด้วยคีย์เวิร์ดนั้น ๆ

2. เนื่องจากระบบอัลกอริทึ่มของแต่ละ search engine มีตรรกะที่เป็นความลับและไม่สามารถคาดเดาได้จึงทำให้อันดับมีการเคลื่อนขึ้นลงตามการอัพเดตข้อมูลตลอดเวลา

3. ไม่สามารถหยุดนิ่งได้ ต้องคิดแก้ไขสถานการณ์หรือวางแผนตลอดเวลา เพื่อทำให้เว็บไซต์ SEO ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ เสมอ

4. คีย์เวิร์ดที่ใส่ได้ในแต่ละหน้าของเว็บไซต์มีข้อจำกัดไม่เกิน 10 คำ มิฉะนั้นจะถูกตีความว่าเป็นเพจสแปมหรือเพจขยะ จากระบบการตรวจค้นออนไลน์ (ซึ่งเทียบได้กับสายตรวจหรือตำรวจนั่นเอง)

จะเห็นได้ว่าการทำเว็บไซต์ให้เป็นระบบ SEO มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ที่นักธุรกิจออนไลน์ต้องใส่ใจในการเลือกว่าจะจ้างบริษัทเอกชนทำเว็บไซต์ SEO ดีหรือไม่ หรือจะลองศึกษาทำเอง ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด หรือบางท่านอาจเลือกใช้การโปรโมตวิธีอื่น ๆ ก็มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นยอดขายได้เช่นกัน ขอเพียงประเมินข้อเด่นข้อด้อยก่อนและหลังทำก็จะเปรียบเทียบความคุ้มค่าได้อย่างชัดเจน

ข้อดีข้อเสียของ SEO ที่นักธุรกิจออนไลน์ควรรู้

post

ข้อสงสัยในการทำ SEO ควรรู้ไว้

สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มจับธุรกิจออนไลน์ หรือสนใจอยากจ้างใครสักคนทำ SEO ให้เว็บไซต์หรือเพจของคุณ เราอยากแนะนำให้อ่าน คำถามไขข้อสงสัยเบื้องต้นเกี่ยวกับ SEO นี้เสียก่อน เพื่อให้การจ้างงาน SEO ของคุณมีความคุ้มค่า และเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับการส่งเสริมธุรกิจคุณ

สิ่งที่ควรจะรู้และไขข้อสงสัยของการจ้างทำ SEO

1. การจ้างทำ SEO โดยทั่วไปมีค่าใช้จ่ายแฝงไหม?

บริษัทรับทำ SEO โดยทั่วไปจะแสดงตัวเลขค่าใช้จ่ายก่อนรับงาน โดยไม่จำเป็นต้องมัดจำและไม่มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แฝง แต่โดยส่วนใหญ่จะมีการทำเป็นสัญญาต่อเนื่องปีต่อปี เนื่องจากระบบอัลกอริทึ่มของ search engine ต้องใช้เวลาในการเห็นผลที่ต่อเนื่องหลายเดือน

2. ความเป็นไปได้และค่าใช้จ่ายในการทำ SEO ขึ้นอันดับ top 5?

ค่าใช้จ่ายของ SEO มักอิงตามคีย์ หรือ Keywords ที่ใช้ หากมีความจำเพาะหรือมีการแข่งขันสูงในธุรกิจที่ใช้คีย์เดียวกันกับคุณ ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมา ทั้งนี้บริษัทที่รับทำ SEO มักไม่รับประกันผลว่าจะติด 1 ใน 5 อันดับต้น (ถ้าการันตีจะอยู่ที่ top 10 เสียมากกว่า) เนื่องจากการจันอับดับ ไม่สามารถ fix ได้ชัดเจนในการทำงานของ robots จะมีตรรกะเฉพาะ ทำให้ผลอันดับไม่นิ่งหรือสลับอันดับได้ตลอดเวลา

3. เช็คผล SEO ได้อย่างไร?

บริษัทรับทำ SEO มืออาชีพจะมีการทำรีพอร์ตรายงาน SEO รายเดือนแก่ผู้จ้าง พร้อมกับโปรแกรมเช็คอันดับ หรือ Rank tracker เพื่อตรวจสอบอันดับของเว็บไซต์ตัวเองได้ในทุก ๆ วัน

4. การทำ SEO สามารถเห็นผลอันดับขึ้นทันทีตั้งแต่ทำไหม?

การทำ SEO ต้องใช้เวลา หรือ timing หลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของธุรกิจ ซึ่งมีคู่แข่งมากน้อยไม่เท่ากัน หากมีคู่แข่งมาก เช่น ธุรกิจการโรงแรม ทัวร์ การท่องเที่ยว อาจใช้เวลาเกือบปี ในการเห็นผลจากการทำ SEO เลยทีเดียว

สิ่งที่ควรจะรู้และไขข้อสงสัยของการจ้างทำ SEO

5. SEO สามารถทำกับเพจใน facebook ได้หรือไม่?

ปัจจุบัน ใคร ๆ ก็สามารถทำ SEO กับเพจออนไลน์ในระบบของ Facebook ได้แล้ว แต่การจ้างทำ SEO บนเฟสบุ้คเพื่อการันตีผลอันดับ มีรายละเอียดที่แตกต่างจากการทำบน website ซึ่งต้องสอบถามราคาค่าใช้จ่ายเฉพาะกับแต่ละบริษัทเพื่อเทียบราคาด้วย

6. เว็บไซต์หน้าเดียว หรือยังไม่มีเว็บไซต์ สามารถทำ SEO ได้ไหม?

ต้องยอมรับว่าการมีเว็บไซต์หน้าเดียว จะเป็นข้อจำกัดทำให้ติดอันดับยาก เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค แต่สามารถทำ SEO ได้ ทั้งนี้กรณีที่ผู้สนใจทำธุรกิจออนไลน์ยังไม่ได้เปิดเว็บไซต์ ก็สามารถสอบถามกับบริษัทรับทำ SEO ที่มีประสบการณ์ในการออกแบบเว็บไซต์ให้ตรงตามมาตรฐานของ search engine ด้วย จะเป็นการได้ประโยชน์คูณสองในเวลาเดียวกัน

จะเห็นได้ว่าการทำ SEO มีทั้งจุดเด่นและข้อจำกัดในเวลาเดียวกัน การจ้างทำ SEO จึงต้องพิจารณาทั้งสองด้าน เพื่อประเมินความจำเป็นทางธุรกิจและเลือกใช้บริษัทที่ให้ข้อเสนอที่ตอบโจทย์เหมาะสมที่สุดกับธุรกิจออนไลน์ของคุณ

post

การทำ SEO สำหรับธุรกิจขนาดเล็กครองตลาดท้องถิ่น

โลกเทคโนโลยีคืบคลานเข้าหาทุกธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะเป็นกิจการขนาดเล็กแค่ไหนก็ตาม จำเป็นต้องเปิดเว็บขายออนไลน์เพื่อสยายปีกทางอินเทอร์เน็ตให้เติบโตมากขึ้น ลองมองในมุมของผู้บริโภคทุกวันนี้ ถ้าคุณต้องการสั่งซื้ออาหารมื้อเย็นแสนอร่อยที่คุณจะค้นหาร้านอาหารเปิดใหม่ให้ส่วนลดดีที่สุดได้อย่างไร จากอินเตอร์เน็ตใช่หรือไม่ เวลาคุณต้องการซื้อของขวัญวันเกิดในนาทีสุดท้ายคุณดูที่ไหน ใช่แล้ว อินเทอร์เน็ตเช่นกัน ผู้บริโภคค้นหาผลิตภัณฑ์สินค้าหรือบริการที่เปิดขายออนไลน์ โดยเฉพาะ Google เป็นช่องทางที่ดีที่สุด ถ้าคุณต้องการให้ธุรกิจขนาดเล็กของคุณอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้วของลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียง สามารถส่งสินค้าได้รวดเร็วทันใจ ต้องเน้นการทำ SEO เพื่อให้ธุรกิจของคุณอยู่ในสายตาและเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของลูกค้าเป้าหมาย

SEO ช่วยให้ร้านของคุณติดอันดับดีได้

การทำ SEO ให้ชื่อร้านติดอันดับดีใน Google จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และส่งเสริมการตลาดธุรกิจออนไลน์ให้ได้รับความสนใจจากลูกค้าท้องถิ่นมากขึ้น เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องหารให้ผู้คนที่มาเยี่ยมชมหน้าร้านของตน เช่น ร้านอาหาร เสื้อผ้าแฟชั่น หรือสินค้าแฮนด์เมด การเปิดเว็บไซต์และเขียนบทความพร้อมกับทำ SEO จะชี้ชวนให้ลูกค้าหน้าใหม่เดินผ่านประตูเข้ามาเยี่ยมชมร้านของคุณมากขึ้น ไม่ต่างจากการลงโฆษณาในนิตยสารและทางโทรทัศน์ เพียงแต่การทำตลาดออนไลน์ง่ายและประหยัดกว่า นอกจากนั้นการค้นหาร้านค้าบนโทรศัพท์มือถือสามารถดึงดูดลูกค้าท้องถิ่นกว่าครึ่งที่สนใจสินค้านั้นอยู่แล้วเดินเข้าไปเยี่ยมชมร้านค้ามากขึ้นด้วย

ดังนั้น ถ้าคุณต้องการให้ธุรกิจของคุณเป็นตัวเลือกแรกและยึดครองส่วนแบ่งตลาดท้องถิ่นมากขึ้น แนะนำให้ศึกษาการทำ SEO คุณโดดเด่นในเครื่องมือค้นหาให้มากที่สุด ก่อนอื่นจะต้องสร้างบัญชี Google My Business เป็นวิธีง่ายที่สุดในการทำให้ธุรกิจของคุณนำหน้าคู่แข่งและติดอันดับแรก ๆ ของการแสดงผลบนมือถือ เพียงป้อนข้อมูลของคุณลงในบัญชี Google แสดงที่อยู่ , หมายเลขโทรศัพท์ , เวลาทำการ , รูปภาพ , แผนที่และข้อมูลอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจค้นหาร้านและติดต่อได้ง่ายขึ้น

SEO ช่วยให้ร้านของคุณติดอันดับดีได้

คุณสามารถทำ SEO ด้วยการสร้างโปรไฟล์ธุรกิจในท้องถิ่นในเว็บไซต์ค้นหายอดนิยมอื่น ๆ รวมทั้ง TripAdvisor , Yellow Pages และ Foursquare เป็นอีกแพลตฟอร์มหนึ่งสำหรับการลงโฆษณาออนไลน์และแสดงผลการค้นหาผู้บริโภคเห็นธุรกิจของคุณมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่าลืมสร้างลิงก์เชื่อมโยงกลับมายังเว็บไซต์ของคุณ หากคุณมั่นใจในสินค้าและบริการ รีวิวจากลูกค้ามีบทบาทสำคัญช่วยกระตุ้นยอดผู้ชมและดึงดูดลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการมากขึ้น แน่นอนว่าการรีวิวมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อดีที่สุดคือการปรับปรุง SEO ทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่างรวดเร็ว ยิ่งมีรีวิวเชิงบวกมาก ๆ จะส่งผลให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ เลื่อนอันดับผลการค้นหาให้ดีขึ้นอีกด้วย ทุกครั้งที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ควรฝึกอบรมพนักงานในร้านของคุณให้ขอความเห็นจากลูกค้าเพื่อคัดเลือกความเห็นในด้านดีเชื่อมโยงไปยังโปรไฟล์ความเห็นบนเว็บไซต์ของคุณและโซเชียลมีเดีย เพราะผู้บริโภคชอบความคิดเห็นออนไลน์ รู้แล้วชอบกดไลค์ กดแชร์ ช่วยเพิ่มพลังแม่เหล็กดึงดูดลูกค้ามาอุดหนุนธุรกิจของคุณมากขึ้นแน่นอน

post

SEO ผลักดันสตาร์ทอัพให้ประสบความสำเร็จ

หากคุณเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่กำลังพยายามผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพให้ประสบความสำเร็จ การทำ SEO อาจเป็นแผน นักการตลาด ที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่อย่ากลัวการเรียนรู้ เพราะถือเป็นโฆษณาการตลาดขั้นพื้นฐานที่เข้าใจง่าย ใครๆ ก็ทำได้ หรือถ้าต้องการคุณภาพและหวังประสิทธิภาพสูงสุดอาจลงทุนจ้างบริการทำ SEO เข้ามาช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักและขยายตัวออกไปในเวลาอันรวดเร็ว การเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายในวงกว้างเท่ากับเปิดประตูให้คนเข้ามาดูสินค้า แม้จะการันตีไม่ได้ว่าคนเข้าเว็บจำนวนมากจะเพิ่มยอดขายให้คุณ แต่ย่อมมีโอกาสปิดการขายได้มากขึ้นจริง โดยไม่ต้องทุ่มค่าใช้จ่ายด้านโฆษณาเป็นเงินก้อนโตเหมือนกับการโปรโมทเว็บรูปแบบอื่นๆ ด้วย ความเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจซบเซาเช่นนี้ ช่วยให้ธุรกิจของคุณสร้างกำไรได้มากกว่าธุรกิจสตาร์ทอัพรายอื่นในตลาดเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย

หากคุณกำลังสนใจการทำ SEO เพื่อพัฒนาธุรกิจของคุณให้ดียิ่งขึ้น ก่อนอื่นต้องอาศัยคีย์เวิร์ดเป็นเครื่องนำทางให้กลุ่มเป้าหมายที่จะมาเป็นลูกค้าในอนาคตได้รู้จักแบรนด์และผลิตภัณฑ์ เขียนบทความที่มีเนื้อเกี่ยวกับสินค้า พูดถึงประโยชน์และเหตุผลที่ต้องเลือกของเรา จุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาดเดียวกัน เพื่อให้ผู้ค้นหามีความต้องการในสินค้าของคุณให้ได้ ส่วนหนึ่งของบทความควรเป็นรีวิวสินค้าจากผู้บริโภคได้ทดลองใช้สินค้าจริงๆ แล้วเกิดความประทับใจ การนำเสนอแบบเล่าปากต่อปากเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลเสมอ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นดารามีชื่อเสียง พริตตี้ที่คนรู้จักหรือคนธรรมดาที่ใช้ผลิตภัณฑ์แล้วพึงพอใจก็ตาม ช่วยให้คนมาใหม่มีความต้องการสินค้า รวมถึงลูกค้าเดิมเข้ามาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง

เลือกคียเวิร์ดในการเขียนบทความ

การเขียนบทความจะต้องเลือกคีย์เวิร์ดที่ถูกต้องและแทรกเข้าในเนื้อหาอย่างเหมาะสม ส่วนหนึ่งอาจใช้คลิปวิดีโอแทนการเขียนข้อความ พร้อมกับบรรยายรายละเอียดที่ใส่คีย์เวิร์ดเพื่อเป็นลิงก์ให้ลูกค้าเข้ามาเห็นและกลายมาเป็นลูกค้าของคุณได้ ไม่ได้มีงบประมาณมากนัก การสร้างช่องทางให้ลูกค้าใหม่รู้จักจะต้องนำเสนอให้ถูกจุด โดยรู้ว่าคีย์เวิร์ดที่จะใช้ค้นหาสินค้ามีอะไรบ้าง ตั้งแต่การมองหากลุ่มสินค้ากว้างๆ แล้วลดลงเป็นกลุ่มย่อย เช่น “ประกันภัย” จากนั้นใช้คำค้นหาที่แคบลงเป็น “ประกันภัย รถยนต์” ต่อมาเลือกคำเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น เช่น “ประกันภัย รถยนต์ มือสอง” นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณจะสามารถสร้างประโยชน์และผลักดันธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น

ในส่วนของการเขียนบทความแนะนำสินค้าจะต้องเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าด้วย โดยเขียนเนื้อหาคอนเทนต์เกี่ยวข้องกับสินค้าและสิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง กลยุทธ์การทำ SEO ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของธุรกิจสตาร์อัพ ยิ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากเท่าไร โอกาสขายสินค้าในอนาคตก็อาจจะเกิดขึ้นได้ง่ายดายเท่านั้น พยายามอัพเดทบทความเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ เพิ่มความแปลกใหม่เข้าไปเพื่อให้โดนใจผู้บริโภค เข้ามาอ่านซ้ำๆ ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดความสนใจซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง

การทำ seo สำคัญ

post

ทำอย่างไรให้เว็บไซต์อ่านได้ง่ายบนจอมือถือ

อย่างที่ทราบกันดีว่าการทำ SEO เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ธุรกิจออนไลน์งัดขึ้นมาใช้เป็นไม้เด็ดในการแข่งขันกับแบรนด์สินค้าคู่แข่ง โดยเฉพาะการเขียนเนื้อหาบทความที่โพสต์ลงในเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊กซึ่งเน้นการใส่คีย์เวิร์ดที่ช่วยให้ค้นหาพบง่ายขึ้น แต่เนื้อหาถึงจะดีอย่างไร ถ้าโครงสร้างเว็บไซต์ใช้งานยาก ก็เหมือนจะคลายความน่าสนใจลงไปมาก ยิ่งทุกวันนี้ผู้บริโภคใช้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์มือถือในการท่องอินเทอร์เน็ต จำเป็นต้องปรับปรุงเว็บไซต์ให้อ่านได้ง่ายบนจอมือถือ ขอแนะนำเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าพึงพอใจ ดังนี้

ค้นหาง่ายในเว็บไซต์

การทำ SEO ไม่ได้มีผลเฉพาะการค้นหาสินค้าหรือเว็บไซต์ในกูเกิลเท่านั้น แต่การค้นหาคีย์เวิร์ในเว็บจำหน่ายสินค้าเองก็ต้องพบง่ายเช่นกัน โดยพึ่งพอกลไกของการเสิร์จเอนจินและใส่คีย์เวิร์ดไว้ในเนื้อหาของบทความ รวมถึงการตั้งชื่อโปรไฟล์รูปให้ตรงกับคีย์เวิร์ดด้วย เพื่อให้แสดงผลได้ดีบนระบบค้นหา สามารถลิงก์เรื่องเข้ารูปภาพ หรือลิงก์จากรูปไปหาบทความที่ต้องการอ่านอย่างรวดเร็ว วิธีการทำไม่ยาก ลองเข้าไปศึกษาจากเว็บสินค้าชื่อดังและค้นหาด้วยคีย์เวิร์เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติของการทำ SEO ในเว็บนั้นแล้วนำมาปรับแต่งเว็บไซต์ของตัวเองให้ทำงานร่วมกับเสิร์จเอนใจได้ดีขึ้น

การตั้งชื่อบทความ

บทความที่นำมาลงในเว็บไซต์ประกอบไปด้วยเนื้อหาความรู้ที่ถูกต้อง รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าและบริการ ตลอดจนเกร็ดความรู้ที่เกี่ยวข้อง การเขียนบทความควรปรับให้สั้นลง มีเนื้อความไม่มาก แทรกรูปภาพที่สวยงามเพื่อให้เหมาะกับการแสดงผลบนจอมือ แต่ความสวยงามอย่างเดียวคงไม่พอ จำเป็นต้องตั้งชื่อบทความให้น่าสนใจ ที่สำคัญคือเลือกใช้คีย์เวิร์ดในชื่อของบทความเพื่อช่วยให้การค้นหาง่าย รวมถึงใส่คีย์เวิร์ดใน 100 คำแรกของบทความเสมอ เพราะการอัพเดทข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดจะทำให้บทความเลื่อนลงไปเรื่อยๆ ถ้าค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดไม่พบ เนื้อหาดีๆ ที่มีคุณภาพและไม่เสื่อมไปตามกาลเวลาก็จะเสียเปล่าไปอย่างน่าเสียดาย

โหลดเร็ว ไม่เสียเวลา

แนวโน้มการใช้โทรศัพท์มือถือในการจับจ่ายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม การจัดทำเว็บไซต์จึงต้องคำนึงการโหลดรวดเร็ว ไม่เสียเวลานาน ทั้งเนื้อหาและรูปภาพต้องไม่ใช้ไฟล์ใหญ่ที่ทำให้โหลดช้า หรือโหลดไม่ขึ้น การจัดโครงสร้างต้องไม่ซับซ้อนเพื่อให้เหมาะกับการแสดงผลบนมือถือมากที่สุด ลูกค้าได้รับประสบการณ์ดีๆ จากเว็บไซต์ที่อ่านง่ายและใช้งานสะดวกย่อมอยากเข้ามาใช้งานซ้ำอีก ตามด้วยการตัดสินใจซื้อในอนาคต ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แสดงให้เห็นว่าการทำ SEO นั้นมีความหลากหลาย ควรผนวกหลายองค์ประกอบเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา คีย์เวิร์ด ความรวดเร็วในการโหลด หรือการอัพเดทเว็บไซต์ให้ใหม่และดีขึ้นอยู่เสมอ ย่อมเรียกคนเข้ามาใช้งานจำนวนมากทำให้การจัดอันดับของกูเกิลปรับปรุงดีขึ้นโดยธรรมชาติ