post

รู้จัก “คีย์เวิร์ด” SEO 7 ประเภท ช่วยเพิ่มปริมาณการเข้าถึงเว็บไซต์

สำหรับคนที่เป็นนักทำคอนเทนต์หรือเขียนบทความออนไลน์น่ารู้จักเทคนิคการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization กันไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะความสำคัญของการใช้ “คีย์เวิร์ด” (Keyword) ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ได้รับการจัดอันดับดี ๆ บนหน้าการค้นหาของ Search Engine ต่าง ๆ

สำหรับวันนี้ เราก็จะไปทำความรู้จัก คีย์เวิร์ด” SEO 7 ประเภท ที่จะช่วยเพิ่มปริมาณการเข้าถึงเว็บไซต์

  1. คำนามสั้น (Short-tail Keyword)
    การใช้คำนามสั้น (Short-tail Keyword) เป็นคำที่ไม่มีความเฉพาะเจาะจง ส่วนใหญ่มักเป็นคำที่มีความหมายกว้าง ๆ ระบุชื่อสิ่งของ ชื่อคน หรือชื่อสถานที่ ซึ่งคำประเภทนี้มักมีจำนวนผู้คนหามากที่สุด ทำให้เป็นคำที่มีคู่แข่งเยอะตามไปด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่าง รองเท้า, กระเป๋า, รถจักรยาน ฯลฯ
  2. คำนามยาว (Long-tail Keywords)
    การใช้คำนามยาว (Long-tail Keywords) เป็นคำที่ช่วยเพิ่มความเฉพาะเจาะจงให้มากขึ้น ช่วยจำกัดขอบเขตการค้นหาให้แคบลงด้วยการบอกลักษณะหรือจุดเด่นต่าง ๆ ต่อท้าย เช่น รองเท้าผ้าใบสำหรับวิ่ง, รองเท้านักเรียน, กางเกงขาสั้นผู้หญิง เป็นต้น
  3. คำกลาง ๆ ที่เนื้อหาตายตัว (Long-term evergreen keyword)
    คำกลาง ๆ ที่เนื้อหาตายตัว (Long-term evergreen keyword) เป็นคำลักษณะกลาง ๆ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็จะมีคนค้นหาใน Search Engine ด้วยคำเหล่านี้เสมอ ข้อมูลของเนื้อหาที่เกี่ยวกับคำประเภทนี้ค่อนข้างจะตายตัว ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ยกตัวอย่าง แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์, ประโยชน์ของวิตามินซี, ประวัติศาสตร์กรุงเทพฯ เป็นต้น
  4. คำนามสั้น ๆ ที่เป็นกระแส (Short-term fresh keyword)
    คำนามสั้น ๆ ที่เป็นกระแส (Short-term fresh keyword) หมายถึงคำสั้น ๆ ที่กำลังเป็นกระแสในสังคมขณะนั้น อาจจะเป็นคำที่เป็นไวรัลในสื่อโซเชียลมีเดีย เช่น ส้มหยุด, เที่ยวทิพย์, พระมหาเทวีเจ้า ฯลฯ หรือเป็นคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับคน, ข่าวการเมือง หรืออาชญากรรมที่เกิดขึ้นในขณะนั้นก็ได้เช่นเดียวกัน โดยสามารถสังเกตจากสื่อโซเชียลว่าคำไหนที่ติดเทรนด์ในช่วงนั้น
  5. คำระบุลักษณะเด่นของลูกค้า (Customer defining keyword)
    คำลักษณะเด่นของลูกค้า (Customer defining keyword) เป็นการนำลักษณะเด่นของลูกค้ามาใช้ร่วมกับคำประเภท Short-tail Keyword ทำให้เกิดคีย์เวิร์ดที่มีความเฉพาะเจาะจง เช่น กางเกงผู้หญิงอวบ, รองพื้นผิวแทน, ทรงผม สาวผมหยักศก เป็นต้น
  6. คำลักษณะเด่นของสินค้า/บริการ (Product defining keyword)
    ลักษณะเด่นของสินค้า/บริการ (Product defining keyword) เป็นคำที่นำลักษณะเด่นของสินค้าหรือบริการมาใช้ในการทำ SEO เช่น ยี่ห้อ, รุ่น, ลักษณะ ฯลฯ ยกตัวอย่าง โฮสเทลกรุงเทพ ราคาถูก, กองทุน ABC ผลตอบแทนสูง, รองเท้าผ้าใบ (ชื่อแบรนด์) ใส่สบาย เป็นต้น โดยลักษณะของคำประเภทนี้ที่ดีควรเป็นคำที่มีการค้นหาพอประมาณ มีคู่แข่งน้อย มีความเฉพาะเจาะจงสูง
  7. คำระบุตำแหน่งที่ตั้ง Geo-targeting keyword
    คำระบุตำแหน่งที่ตั้ง (Geo-targeting keyword) เป็นการบอกตำแหน่งที่ตั้งต่อท้ายคำประเภท Short-tail Keyword ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเฉพาะเจาะจง และจำกัดขอบเขตการค้นหามากขึ้น อีกทั้งยังสามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้าในพื้นที่มากขึ้นด้วย เช่น ร้านอาหารทะเล มหาชัย, โรงแรมแถวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ร้านกาแฟวิวสวยปาย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ด้วยการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับอัลกอริทึมของ Search Engine ต่าง ๆ เช่น Google ได้เปลี่ยนไปจากเมื่อหลายปีก่อนมาก ผู้ทำ SEO จึงต้องค้นคว้าหาคีย์เวิร์ดที่ตรงใจผู้ใช้ โดยสามารถเริ่มต้นจากไอเดียคีย์เวิร์ดทั้ง 7 ประเภทข้างต้น ก็จะสามารถต่อยอดในการผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นที่สนใจของผู้ชมได้ดียิ่งขึ้น