post

SEO: สิ่งสำคัญที่ Web Developer ควรเรียนรู้

สำหรับนักพัฒนาเว็บที่ต้องการพัฒนาทักษะ SEO (Search Engine Optimization) มีแนวคิดและแนวปฏิบัติที่สำคัญมากมายให้เรียนรู้ SEO มีความสำคัญในการเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์ในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเข้าชมเว็บไซต์และความสำเร็จโดยรวม ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญด้าน SEO ที่นักพัฒนาเว็บควรมุ่งเน้น

1.ทำความเข้าใจวิธีการทำงานของเครื่องมือค้นหา: การรู้พื้นฐานของอัลกอริธึมของเครื่องมือค้นหา วิธีการจัดทำดัชนีและจัดอันดับเนื้อหา สามารถแนะนำกลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพได้

2.เทคนิค SEO: ซึ่งรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างของเว็บไซต์เพื่อให้สามารถรวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนีได้โดยเครื่องมือค้นหา ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วไซต์ ความเหมาะกับมือถือ การเชื่อมต่อที่ปลอดภัย (HTTPS) การสร้างแผนผังไซต์ XML และการปรับปรุงสถาปัตยกรรมเว็บไซต์

3.การวิจัยและการเพิ่มประสิทธิภาพคำหลัก: การระบุและการใช้คำหลักที่เหมาะสมในเนื้อหาและเมตาแท็กของเว็บไซต์ของคุณ (เช่น แท็กชื่อและคำอธิบายเมตา) สามารถช่วยปรับปรุงการมองเห็นสำหรับคำค้นหาเหล่านั้น

4.คุณภาพและความเกี่ยวข้องของเนื้อหา: เครื่องมือค้นหาชื่นชอบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและคุณภาพสูง สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการสร้างเนื้อหาที่ตอบสนองความตั้งใจของกลุ่มเป้าหมายของคุณ และใช้คำหลักอย่างเป็นธรรมชาติภายในเนื้อหานั้น

5.On-Page SEO: นอกเหนือจากคำหลักแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพหน้าเว็บแต่ละหน้าเพื่อให้มีอันดับสูงขึ้น ประกอบด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพส่วนหัว แท็ก HTML (ชื่อ เมตา และส่วนหัว) และรูปภาพ

6.Off-Page SEO: กลยุทธ์ภายนอกเว็บไซต์ของคุณเองที่อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและอำนาจของเว็บไซต์ของคุณ เช่น การสร้างลิงก์จากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง การตลาดบนโซเชียลมีเดีย และการเข้าถึงผู้มีอิทธิพล

7.การออกแบบที่ตอบสนอง: การตรวจสอบให้แน่ใจว่าไซต์ของคุณสามารถเข้าถึงได้และมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีในทุกอุปกรณ์ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือถือเป็นสิ่งสำคัญ

8.ความเร็วเว็บไซต์และการเพิ่มประสิทธิภาพ: ความเร็วเว็บไซต์เป็นปัจจัยในการจัดอันดับสำหรับเครื่องมือค้นหาส่วนใหญ่ รวมถึง Google ด้วย เทคนิคต่างๆ ได้แก่ การปรับรูปภาพให้เหมาะสม การใช้ประโยชน์จากแคชของเบราว์เซอร์ และการลดขนาด JavaScript และ CSS

9.มาร์กอัปข้อมูลที่มีโครงสร้าง: การใช้มาร์กอัปสคีมาเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาแก่เครื่องมือค้นหาสามารถปรับปรุงผลการค้นหาของคุณด้วยตัวอย่างข้อมูลที่หลากหลาย ซึ่งสามารถปรับปรุงอัตราการคลิกผ่านได้

10.SEO ท้องถิ่น: สำหรับธุรกิจที่กำหนดเป้าหมายลูกค้าในท้องถิ่น การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับคำค้นหาในท้องถิ่นถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรวมถึงการอ้างสิทธิ์รายชื่อ Google My Business ของคุณ การจัดการบทวิจารณ์ในท้องถิ่น และการอ้างอิงในท้องถิ่น

11.การตรวจสอบและการวิเคราะห์: การตรวจสอบประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณเป็นประจำโดยใช้เครื่องมือเช่น Google Analytics และ Google Search Console สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิผลของกลยุทธ์ SEO ของคุณและพื้นที่สำหรับการปรับปรุง

12.การทำความเข้าใจประสบการณ์ผู้ใช้ (UX): ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีจะทำให้มีเวลาพักนานขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงบวกต่อการจัดอันดับ ซึ่งรวมถึงการนำทางที่ชัดเจน เวลาในการโหลดที่รวดเร็ว และเนื้อหาที่น่าสนใจ

13.การเข้าถึง: การตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้ รวมถึงผู้ที่มีความพิการ สามารถปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้และความพึงพอใจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่เครื่องมือค้นหาพิจารณา

นักพัฒนาซอฟต์แวร์ควรจำไว้ว่า SEO เป็นกระบวนการที่กำลังดำเนินอยู่ เครื่องมือค้นหามักจะอัปเดตอัลกอริธึม ดังนั้นการรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้ม SEO ล่าสุดและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ การบูรณาการข้อควรพิจารณาด้าน SEO ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการพัฒนาเว็บไซต์สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น

post

10 เหตุผลที่ SEO ใช้ WordPress เพื่อสร้างเว็บไซต์

1.แพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย WordPress นำเสนออินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ซึ่งทำให้ง่ายต่อการจัดการและเผยแพร่เนื้อหา แม้ว่าผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์การเขียนโค้ดมาก่อนก็ตาม ความสะดวกในการใช้งานนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ SEO

2.คุณสมบัติ SEO ในตัว WordPress มาพร้อมกับคุณสมบัติในตัวหลายประการที่สามารถช่วยในการทำ SEO เช่น

-ล้าง URL: WordPress ช่วยให้คุณสร้างลิงก์ถาวรที่เป็นมิตรกับ SEO ซึ่งเป็น URL สำหรับแต่ละหน้าและโพสต์ของคุณ ลิงก์ถาวรเหล่านี้สามารถปรับแต่งให้รวมคำสำคัญที่เกี่ยวข้องได้ ทำให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น

-คำอธิบาย Meta: WordPress ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มคำอธิบาย meta ลงในเพจและโพสต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย คำอธิบายเมตาเป็นการสรุปสั้นๆ ที่ปรากฏในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERP) และสามารถใช้เพื่อดึงดูดผู้ใช้ให้คลิกบนเว็บไซต์ของคุณได้

-แท็กชื่อ: WordPress อนุญาตให้คุณตั้งค่าแท็กชื่อสำหรับเพจและโพสต์ของคุณ แท็กชื่อจะแสดงใน SERP และควรมีความชัดเจนและกระชับ สะท้อนถึงเนื้อหาของหน้าได้อย่างถูกต้อง

3.คลังปลั๊กอินที่กว้างขวาง WordPress มีคลังปลั๊กอินมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อช่วยในเรื่อง SEO ปลั๊กอินเหล่านี้สามารถช่วยคุณในงานต่างๆ เช่น

-การวิจัยคำหลัก

-การเพิ่มประสิทธิภาพในหน้า

-การตรวจสอบ SEO ทางเทคนิค

-การสร้างลิงก์ย้อนกลับ

4.ความเหมาะกับมือถือ: เครื่องมือค้นหาจัดลำดับความสำคัญของเว็บไซต์ที่เหมาะกับมือถือในการจัดอันดับ โดยทั่วไปแล้ว ธีม WordPress จะตอบสนองได้ ซึ่งหมายความว่าธีมจะปรับให้เข้ากับขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน ทำให้มั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของคุณดูดีและทำงานได้ดีบนอุปกรณ์ทุกชนิด รวมถึงโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต

5.ความยืดหยุ่น WordPress เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูงซึ่งสามารถปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการเฉพาะของเว็บไซต์ของคุณได้ สิ่งนี้ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ที่ไม่เพียงแต่เป็นมิตรกับ SEO เท่านั้น แต่ยังดึงดูดสายตาและใช้งานง่ายอีกด้วย

6.โอเพ่นซอร์ส WordPress เป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้และแก้ไขได้ฟรี สิ่งนี้ช่วยให้คุณควบคุมเว็บไซต์ของคุณได้มากและช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งตามความต้องการของคุณได้

7.ชุมชนขนาดใหญ่ WordPress มีชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนาขนาดใหญ่และกระตือรือร้น ซึ่งหมายความว่ามีแหล่งข้อมูลมากมายที่จะช่วยคุณเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงบทแนะนำ ฟอรัม และกลุ่มสนับสนุน

8.การอัปเดตเป็นประจำ WordPress ได้รับการอัปเดตเป็นประจำด้วยคุณสมบัติใหม่และแพตช์ความปลอดภัย สิ่งนี้ช่วยให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณทันสมัยและปลอดภัยอยู่เสมอ

9.เวลาโหลดเร็ว เว็บไซต์ WordPress สามารถปรับให้เหมาะสมเพื่อให้โหลดเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการทำ SEO

10.ความสามารถในการปรับขนาด WordPress สามารถปรับขนาดได้เพื่อตอบสนองความต้องการของเว็บไซต์ของคุณ ไม่ว่าคุณจะมีบล็อกขนาดเล็กหรือร้านค้าอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ก็ตาม

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการใช้ WordPress เพียงอย่างเดียวไม่ได้รับประกันว่าคุณจะได้รับการจัดอันดับเครื่องมือค้นหาอันดับต้นๆ อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติของแพลตฟอร์มและระบบนิเวศที่กว้างขวางของปลั๊กอินและธีมสามารถทำให้ SEO ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

post

พลาดไม่ได้กับ SEO tools มาแรงสำหรับการตลาดปี 2023

อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า SEO นั้น เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการค้นเจอ และลำดับที่ในเสิร์ชเอนจิ้นให้กับเว็บไซต์ของคุณ ผ่านการค้นหาและวิเคราะห์เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม โดยเชื่อมโยงเข้ากับลิงค์ที่จะเปิดไปสู่เว็บไซต์ของคุณ ดังนั้นฟังก์ชันของ SEO ส่วนที่สำคัญที่สุด ก็คือ ความสามารถในการสร้างคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพในการเชื่อมโยงมากที่สุด ซึ่งจะนำไปสู่การดึงดูดการเข้าชมมากขึ้นของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แต่หากว่าคุณคือหน้าใหม่ และคุณเพิ่งจะเริ่มเรียนรู้การใช้งาน SEO คุณก็อาจจะรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องยาก แต่โชคดีที่ตอนนี้เรามี SEO tools มากมายที่จะช่วยให้คุณสามารถทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ของคุณเองได้ไม่ยากจนเกินไปนัก

พลาดไม่ได้กับ SEO tools มาแรงสำหรับการตลาดปี 2023

ทำไม SEO tools จึงช่วยคุณได้ SEO tools จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายเมื่อคุณเริ่มต้นทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ของคุณ เนื่องจาก SEO tools จะสามารถทำงานในส่วนของการวิเคราะห์ค้นหาคีย์เวิร์ด และช่วยตรวจสอบเว็บไซต์ของคุณ พร้อมกับตรวจสอบลิ้งค์ในการเชื่อมโยง ในเวลาเดียวกัน ดังนั้นจึงเป็นการบูรณาการสามงานเข้าด้วยกัน คุณจึงประหยัดเวลาได้มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า มาลองดูกันว่า SEO tools ที่มาแรงสำหรับปี 2023 ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้นั้น มีอะไรบ้าง

1. Google Search Console

 เป็น SEO tools ที่เปิดบริการให้ใช้ฟรี เพื่อช่วยตรวจสอบและเช็คประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ดหลักพร้อมทั้งรายงานสถานะของเว็บไซต์ของคุณ เพื่อที่คุณจะได้ทราบสถานการณ์รวมทั้งสามารถประเมินแนวทางการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้คุณยังสามารถได้รับคำแนะนำจากทีมวิจัยของ google เพื่อรับทราบข้อมูลการเข้าชมและความถี่ใน google search สำหรับคีย์เวิร์ดที่คุณเลือกใช้เพื่อโยงเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งข้อมูลที่สำคัญเหล่านี้เองจะทำให้คุณสามารถปรับปรุงการค้นเจอของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง

2. Ahrefs

เป็น SEO tools ที่เน้นให้คุณทราบได้ว่าส่วนใดของเว็บไซต์ของคุณ ที่ได้รับการเข้าชมมากที่สุด คุณจึงสามารถจัดการออกแบบเว็บไซต์ หรือจัดทำดัชนีภาพรวมของหน้าเว็บไซต์ของคุณเอง ให้สอดคล้องกับวิสัยในการเข้าชมเนื้อหาของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ค่อนข้างตรงมากขึ้น เพราะคุณทราบว่าข้อมูลใดจะดึงดูดผู้ชมได้มากที่สุด

SEO tools จะช่วยให้คุณรวบรวมข้อมูลการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงภาพรวมของการเข้าถึงเว็บไซต์ และนี่ไม่ใช่เป็นเพียงในแง่ของการเข้ารับชมเว็บไซต์เท่านั้นแต่ SEO ยังสามารถช่วยให้คุณเห็นข้อผิดพลาดต่าง ๆ อีกด้วย และนั่นก็หมายถึงคุณสามารถรับรู้ปัญหาในการเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นข้อมูลในเชิงลึก ที่จะช่วยให้คุณปรับปรุงการเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญยังสามารถเปรียบเทียบอันดับเว็บไซต์ของคุณ กับค่าเฉลี่ยของเว็บไซต์อื่นซึ่ง SEO สามารถแจกแจงให้คุณเห็นได้ คุณจึงสามารถรู้ตัวได้ว่า คุณเองนั้นยืนอยู่ตรงไหน ในระหว่างคู่แข่งทั้งหมด และเหล่านี้ก็คือความยอดเยี่ยมของ SEO tools ที่รอให้คุณทดลองใช้ได้แล้ววันนี้ก่อนใคร

post

ทำ SEO แล้วได้อะไร มือใหม่ต้องรู้

เมื่อจะเข้าสู่วงการขายสินค้าออนไลน์ คุณควรต้องเรียนรู้เรื่อง SEO หรือ search engine optimization เพื่อให้การทำธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ที่เราจะแนะนำดังนี้

1. ลดเวลาในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า

การเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายโดยเร็วเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณเป็นมือใหม่ในวงการออนไลน์ เมื่อเปิดเว็บไซต์ขึ้นมาแรก ๆ ก็ไม่มีใครรู้จัก หากไม่ทำตามหลักการ SEO ที่ Google แนะนำ คุณก็จะไม่สามารถสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ได้ในเวลาอันสั้น เพราะแทบจะไม่มีโอกาสเลยที่คนจะพิมพ์แล้วตรงกับสิ่งที่คุณใส่ในบทความของเว็บไซต์ตัวเอง ดังนั้นการทำ SEO จะทำให้เว็บไซต์คุณมีคนเข้ามาชมได้เร็วขึ้นในเวลาไม่กี่เดือน

2. ขายของได้มาก

เชื่อว่าคนที่ทำเว็บไซต์ทุกคนต้องการที่จะมีรายได้จากการทำเว็บไซต์ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ถ้าเป็นหน้าร้านขายสินค้าต่าง ๆ ก็ต้องการออเดอร์สินค้าทุกวัน ถ้าขายคอร์สสอนออนไลน์ ก็ต้องการให้คนรู้จักเข้ามาอ่านข้อมูลแล้วตัดสินใจสมัครเรียนไว ๆ ถ้าไม่มีลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์คุณเลยโอกาสในการขายสินค้าและบริการก็จะเท่ากับหายไปด้วย คุณจึงควรศึกษาการทำ SEO ตั้งแต่ต้นที่ทำเว็บไซต์ ทั้งจากคลิปวิดีโอสอนทำจากกูรูต่าง ๆ เพื่อจัดรูปแบบเว็บไซต์ทั้ง On-page และ Off -page SEO ให้เหมาะสม หรือจะจ้างบริษัทมืออาชีพในการทำ SEO ให้เว็บไซต์คุณก็ได้เช่นกัน

3. เข้าถึงลูกค้าต่างประเทศง่ายขึ้น

ถ้าคุณทำเว็บไซต์เป็นภาษาต่างประเทศเพื่อขายสินค้าให้ชาวต่างชาติ ก็มีโอกาสที่จะขายของได้มูลค่ามหาศาลตามไปด้วย ในอดีตหากคุณจะขายของให้คนต่างชาติก็ต้องนั่งเครื่องบินไปโปรโมต เสียเวลาและค่าใช้จ่ายมากมาย แต่หากทำเว็บไซต์ตามหลัก SEO คุณก็ไม่ต้องเสียเงินในส่วนนี้เลย และยังมีโอกาสขายได้ตลอดเวลาเพราะเป็นการขายทางอินเทอร์เน็ตด้วย เรียกได้ว่าเข้าถึงลูกค้าได้ในทุกมุมโลกเพียงแค่มีระบบอินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงกัน

4. ได้รับความเชื่อถือ

ความเชื่อถือของคุณมาจากการที่ใครก็ตามค้นหาในเว็บไซต์ Google ซึ่งเป็นแหล่งค้นหาข้อมูลอันดับหนึ่งของโลกแล้วเจอเว็บไซต์คุณทันที จะดีแค่ไหนถ้าเว็บไซต์ของคุณถูกพิมพ์หาด้วย keyword SEO แล้วอยู่ในอันดับที่ 1 หรือ 2 ตลอดเวลา เพราะนั่นแปลว่าคุณมีโอกาสได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าในการสั่งสินค้าและบริการมากกว่าคนอื่น ๆ 

จะเห็นได้ว่า การทำ SEO ให้ประโยชน์แก่เว็บไซต์อย่างมากมาย คนที่เป็นมือใหม่ในวงการขายของออนไลน์จึงควรเริ่มต้นศึกษาไว้เสียแต่วันนี้ ไม่ว่าจะเรียนเพื่อทำเองหรือเพื่อให้เข้าใจระบบงานสำหรับการจ้างทำ SEO ก็ได้เช่นกัน แล้วคุณจะได้ผลกำไรที่ตอบกลับมาสู่ธุรกิจของคุณมากกว่าที่ลงทุนไปอย่างแน่นอน

post

SEO ทำแล้วได้อะไร 2022

SEO เป็นเทคนิคการตลาดออนไลน์ที่กูรูจำนวนมากแนะนำให้ผู้ที่สนใจธุรกิจออนไลน์ศึกษาอย่างเป็นระบบเพื่อให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว เรามาดูกันว่าหากทำ SEO ให้เว็บไซต์หลักจะได้อะไรบ้าง

1. ประหยัดค่าจ้างทำ SEO 

การทำ SEO เป็นเรื่องที่เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เพียงอาศัยความขยันในการศึกษา keyword ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ เขียน Content ที่มีคุณภาพ วิเคราะห์ให้ตรงตามหลัก SEO ทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอเช่นนี้ ก็จะทำให้อันดับของเว็บไซต์ดีขึ้นได้ทุกวันโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจ้างใคร

2. ไม่ต้องเสียค่าโฆษณา

การโฆษณาต้องมีค่าใช้จ่ายให้แก่ Google โดยจะถูกตัดค่าใช้จ่ายแบบนับจำนวนการคลิก หรือที่เรียกว่า pay per click ซึ่งเงินค่าโฆษณาหมดงบประมาณที่ตั้งไว้เมื่อใดจากจำนวนการคลิกสะสมจนถึงระดับเพดาน ก็จะหยุดการโฆษณาเมื่อนั้น แต่การทำ SEO ไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ทุกเว็บไซต์ออนไลน์สามารถทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ตัวเองแล้วแข่งขันกันด้านคุณภาพเพื่อให้ได้อยู่ในอันดับต้น ๆ ได้ตลอดทั้งปี 

3. แข่งขันอย่างยุติธรรม

นักธุรกิจที่มีทุนน้อยอาจกังวลว่าจะสู้ยักษ์ใหญ่ในตลาดออนไลน์ได้อย่างไร ที่จริงแล้วไม่ต้องกังวลในส่วนนี้เลย เพราะการวิเคราะห์คุณภาพของเว็บไซต์ SEO นั้นเป็นไปโดยระบบ algorithm ของ Google ที่จะมาแวะเวียนเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ต่าง ๆ เป็นระยะ หมดปัญหาอคติในการจัดอันดับเว็บไซต์ได้ ที่สำคัญ คือ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะอยู่ในอันดับด้านบนได้หากทำ SEO สายขาวตามหลักการของ Google ได้อย่างถูกวิธี

4. ทำให้ได้ลูกค้าประจำ

ไม่ว่าจะขายสินค้าหรือบริการชนิดใด หากมีลูกค้าประจำแล้วย่อมหมายถึงการมีโอกาสขายต่อเนื่องและถูกบอกต่อได้มากยิ่งขึ้น การทำ SEO ได้แก่ การจัดหมวดหมู่ของเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย เช่น ถ้าขายสินค้าหลายประเภทก็ต้องแยกเป็นหมวดเสื้อ กางเกง กระโปรง รองเท้า กระเป๋า พร้อมให้สาระความรู้เกี่ยวกับการเลือกสินค้าที่ดีมีคุณภาพ อันแสดงถึงความจริงใจและความรู้ของผู้ผลิตเนื้อหา ทำเช่นนี้ย่อมมีโอกาสขายสินค้าแก่ลูกค้าประจำและขยายฐานการตลาดให้กว้างขึ้นได้

5. เข้าถึงลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติตลอดเวลา

การทำ SEO นั้นให้ประโยชน์ในการเข้าถึงลูกค้าทั่วโลก ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มีโอกาสที่จะมีผู้คลิกเข้ามาชมข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากศึกษาคีย์เวิร์ด SEO ที่เหมาะสม ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ก็ย่อมมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าอย่างไม่จำกัด

จะเห็นได้ว่าการทำ SEO นั้นให้ประโยชน์ทั้งด้านการพัฒนาเว็บไซต์จากระดับรากฐานให้แน่น สอดคล้องตามหลักการของ Google และยังสามารถขยายฐานลูกค้าให้กว้างยิ่งขึ้นได้ อันทำให้ธุรกิจมีความมั่นคงยิ่งขึ้น นักธุรกิจออนไลน์จึงควรเรียนรู้หลักการ SEO เพื่อการอยู่รอดของธุรกิจในทศวรรษหน้า

post

5 เรื่องพื้นฐานควรรู้เกี่ยวกับ SEO

ทุกวันนี้ถ้าเราอยากจะรู้อะไรก็หาคำตอบได้ง่าย ๆ ด้วยการ Search พิมพ์ Keyword ที่เราต้องการค้นหา แค่นี้คำตอบก็ขึ้นมามากมาย ซึ่งเว็บไซต์ที่เราจะเลือกคลิกเข้าไปคืออันดับต้น ๆ ที่ปรากฏขึ้นมา นั่นแสดงว่ามีการทำ SEO มาดี แล้ว SEO คืออะไร เรามาหาคำตอบกัน

SEO (Search Engine Optimization) คือ การปรับปรุงเว็บไซต์ในด้านต่าง ๆ ให้ Search Engine ชอบ เพื่อที่จะได้ขึ้นไปอยู่ด้านบนสุดหรือระดับสายตาของการค้นหาอย่างใน Google, Bing, Yahoo ด้วยวิธีธรรมชาติของระบบโดยไม่ต้องเสียเงินโฆษณาหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้เพิ่มโอกาสให้คนเห็นและคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์เราได้เยอะขึ้น เพิ่มโอกาสการขายได้เพิ่มมากขึ้น

การจะทำ SEO นั้นก็มีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งเราสามารถทำได้ไม่ยากเกินไป แต่ต้องอาศัยการปรับปรุง พัฒนาสม่ำเสมอ และความพยายาม โดยมีหลักการพื้นฐาน 5 ข้อ ดังนี้

1.Keyword
Keyword ต้องตรงกับเนื้อหาของธุรกิจหรือเว็บไซต์ ไม่ใช่ว่ามีแต่ Keyword แต่ข้างในไม่เกี่ยวข้องกัน เราต้องคิดว่าเนื้อหานี้คนที่เข้ามาจะค้นหาด้วยคำว่าอะไรได้บ้าง เปรียบเสมือนเครื่องมือทางการตลาดอย่างหนึ่งที่เข้าถึงได้ง่าย รวดเร็ว แค่ต้องหยิบมาให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าเพื่อที่จะเป็นคลิกที่มีคุณภาพ

2.ปรับปรุงเว็บไซต์สม่ำเสมอ
ควรอัปเดทเนื้อหาให้ Search Engine ได้รับข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ ทันสมัยตลอดเวลาและในเว็บไซต์หรือเนื้อหาควรมีภาพประกอบเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ น่าติดตาม นอกจากนี้จะเพิ่มในส่วนของวิดีโอเข้าไปด้วยก็ยิ่งดี เพราะไม่ว่าจะภาพประกอบหรือวิดีโอก็สามารถขึ้นไปปรากฏเป็นผลลัพธ์การค้นหาของ Search Engine ได้อีกด้วย

3.ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์
ต้องดูน่าเชื่อถือตั้งแต่รูปแบบ โครงสร้าง สีสัน เนื้อหา ภาพประกอบ วิดีโอ ทุกอย่างต้องมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันอย่างมีคุณภาพ มีโอกาสมากที่คนจะนำ Link ของเว็บไซต์เราไปอ้างอิงถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งของการทำ SEO

4.ความเร็วของเนื้อหาที่ปรากฏ
ความเร็วของเว็บไซต์หรือที่เรียกว่า Page Speed ถ้าคลิกแล้วหน้าเว็ปแสดงผลให้เห็นเร็วมากเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะคนจะอยู่ได้นานเพื่ออ่าน ซึ่งมีผลกับ SEO อย่างมาก ถ้าคนคลิกเข้ามาแล้วโหลดหน้าเว็บนานจะออกจากเว็บไซต์เราทันทีและไปเลือกชมเว็บไซต์อื่นแทน

5.อ่านง่ายบนมือถือ
ปัจจุบันคนเราจับมือถือมากกว่าอยู่กับคอมพิวเตอร์กันแล้ว เราควรคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย เพราะยุคนี้สมัยนี้อะไรก็ต้องง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว การจัดรูปแบบ องค์ประกอบของหน้าเว็บไซต์ก็ควรดึงดูดความสนใจได้ตั้งแต่แรกเห็น มองได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยและหลักการอื่น ๆ อีกมากมายในการทำ SEO ที่ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ทุกเว็บไซต์ที่ทำจะได้ขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ หรืออยู่บนสุดในการค้นหา เนื่องจาก Search Engine ใช้ อัลกอริทึม (Algorithm) ในการจัดอันดับและให้คะแนนตามที่ได้กำหนดขึ้นมาในระบบ สิ่งสำคัญที่เราจะทำได้เอง ควบคุมได้เองไม่ต้องลุ้นกับระบบก็คือ การพัฒนา ปรับปรุงคุณภาพของเว็บไซต์เราอยู่ตลอดเวลาด้วยความใส่ใจที่เรามีต่อลูกค้า

post

แนวคิดทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับ ยอดขายพุ่ง

หากว่ากันถึงเรื่อง SEO เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้าง เนื่องจาก SEO นั้นเป็นสิ่งที่หลาย ๆ เว็บไซต์นำไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีคุณสมบัติ คุณลักษณะต่าง ๆ ที่มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ดังนั้น หากว่าเรามีการเปลี่ยนแปลง พัฒนาเว็บไซต์ของแบรนด์ สินค้าและธุรกิจของเราด้วยการทำ SEO แล้วล่ะก็ เชื่อได้ว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจของเราในระยะยาวอย่างแน่นอน

มาเริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกับ SEO กันก่อน การทำ Search Engine Optimization หรือ SEO เป็นการปรับแต่งโครงสร้าง ภาพลักษณ์ของเว็บไซต์ การปรับแต่งโค้ดต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ รวมถึงการการปรับแต่งความรวดเร็วในการที่จะเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา ในส่วนของรายละเอียด รูปแบบ ในเนื้อหาที่เราจะนำไปใส่ในเว็บไซต์ของเรา ให้มีความถูกต้องเหมาะสม มีลักษณะต่าง ๆ ที่แสดงอยู่บนหน้าเว็บไซต์ ตรงกับความต้องการของเว็บ Search Engine ที่ต้องการให้ทำเป็นมาตรฐานเหมือนกันทั่วโลก

ประโยชน์ที่มากมายของ SEO ทำให้เราสามารถยกอันดับเว็บไซต์ของเราให้อยู่ในหน้าการค้นหาที่ดีขึ้น อย่างที่เรามักจะพบเห็นการพิมพ์ การกดค้นหาด้วยคำต่าง ๆ เช่น การค้นหาเว็บสำหรับซื้อสินค้าหรือบริการใด ๆ ก็จะมีการใส่คำสำคัญลงไปในช่องค้นหาของทางเว็บไซต์ Google แล้วเมื่อกดค้นหาก็จะพบว่ามีเว็บไซต์ต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเราก็จะเลือกกดค้นหาเว็บไซต์แรก ๆ ที่ขึ้นมาหรือแสดงในหน้าแรกก่อนเว็บไซต์อื่น ๆ ซึ่งเว็บไซต์เหล่านั้นก็จะมีโอกาสที่จะเป็นตัวเลือกอันดับแรกที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ทั้งนี้การแสดงผลจะมีการแสดงเว็บไซต์หน้าละ 10 อันดับ คือ 1-10 สำหรับหน้าแรก สำหรับหน้าที่สอง จะเป็นอันดับ 11-20 ซึ่งการทำ SEO ที่ดี มีประสิทธิภาพนั้น เว็บไซต์ควรจะอยู่ในผลการค้นหาหน้าแรก อันดับที่ 1-10 ซึ่งจะเพิ่มยอดการกดเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างมาก และมีโอกาสทำให้มีผู้คนคลิกเข้ามาชมในเว็บไซต์ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่รักษาอันดับเดิมไว้ได้

จุดสำคัญของการทำ SEO ประกอบไปด้วยหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งชื่อเว็บไซต์หรือโดเมนเนม Title ชื่อจำกัดความบน คำอธิบาย เนื้อหาของเว็บไซต์ หน้าเว็บไซต์ ที่มีความเหมาะสมสอดคล้อง ตรงกับคีย์เวิร์ดต่าง ๆ รวมทั้งการเลือกโฮสติ้งที่ดี มีคุณภาพและมาตรฐาน ก็จะช่วยทำให้การทำ SEO ประสบความสำเร็จได้ตามที่ต้องการ

จะเห็นได้ว่าการทำ SEO คือแนวทางของการเพิ่มยอดขาย เพิ่มจำนวนลูกค้า ช่วยทำให้เว็บไซต์ของเรามีโอกาสถูกค้นหาและพบเห็นได้มากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่เป็นวิธีที่ดีและเหมาะสมกับยุคปัจจุบันที่มีการแพร่หลายของสื่อออนไลน์และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และหากทำอันดับที่ 1ในผลการค้นหาได้ ก็จะส่งผลดีต่อยอดขายอย่างชัดเจน

post

แนะนำเทรนด์การทำ SEO ปี 2021 รับรองติดหน้าแรก Google แน่นอน

อย่างที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า ‘Google’ เป็น Search Engine ที่ไดรับความนิยมมากที่สุดในไทย เนื่องจากใช้งานง่าย ค้นหาเป็นภาษาไทยได้ และมีการพัฒนาเทคโนโลยีให้ล้ำสมัย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลาย ๆ ธุรกิจที่มีการทำการตลาดออนไลน์พยายามปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ของตัวเองให้ถูกต้องตามหลักการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เพื่อให้หน้าเว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ หรืออย่างน้อยหน้าแรกในการค้นหาด้วยคำค้นที่กำหนดไว้ แต่เทรนด์การทำ SEO ปี 2021 จะมีอะไรปรับเปลี่ยนไปจากเดิมบ้างนั้น วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก

Featured Snippets
ความหมายของ Featured Snippets คือ การอันดับที่ก่อนอันดับ 1 หรืออันดับ 0 ทำให้ลำดับนี้มีชื่อเรียกว่า Rank Zero โดยเป็นตำแหน่งที่มีเนื้อหาที่ผู้ใช้งานต้องการมากที่สุด สำหรับวิธีที่จะให้เว็บไซต์ติดลำดับ 0 นั้นทางเว็บไซต์ควรทำให้เว็บไซต์ของตัวเองติดหน้าแรกอยู่เสมอและพยายามใช้คีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงหรือหลากหลาย ซึ่งข้อดีของการติดลำดับนี้จะเพิ่มอัตราการเข้าชมและสร้างความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

Google “E-A-T”
สำหรับความหมายของคำว่า Google “E-A-T” เป็นการแสดงเนื้อหาตามที่ Google ต้องการ คำว่า E คือ Expertise แปลว่าความเชี่ยวชาญ A คือ Authoritativeness แปลว่าความเป็นเจ้าของ และ T คือ Trustworthiness แปลว่าความน่าเชื่อถือ โดยรวมแล้วจึงหมายความว่าเว็บไซต์ต้องมีความถูกต้อง เป็นข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ และเป็นข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งเว็บไซต์ที่ได้เข้าข่ายกรณี Google “E-A-T” จะเป็นเว็บไซต์ประเภทที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวัน

Search Intent
ปัจจุบันการสร้างคีย์เวิร์ดอาจไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของการทำ SEO แต่ต้องดูว่าสิ่งที่คนส่วนใหญ่ดูคอนเทนต์แบบไหนมากที่สุดจากคำค้นเดียวกัน ซึ่งนอกจากบทความที่หลายคนคุ้นเคยแล้ว ยังสามารถสร้างคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ รูปภาพ เสียง ก็ได้ เพราะฉะนั้นหากเลือกใช้คอนเทนต์ได้ตรงตามความต้องการของคนทั่วไป ก็จะทำให้เพิ่มอันดับของเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น

Voice Search
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลนี AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ จึงทำให้การค้นหาด้วยเสียงมีความสำคัญขึ้น ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการพัฒนาให้ใช้กับภาษาไทยได้แล้ว ทำให้มีการคาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีการใช้งาน Voice Search มากขึ้น ดังนั้นการปรับเนื้อหาของเว็บไซต์ให้สามารถค้นหาด้วย Voice Search ได้ จะช่วยเว็บไซต์ติดอันดับที่ดีได้ สำหรับวิธิทำเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งาน Voice Search สามารถทำได้โดยการเขียนบทความเชิงภาษาพูด วิเคราะห์คีย์เวิร์ดในกลุ่ม Voice Search สร้างหน้าคำถาม FAQ มากกว่า 1 หน้า ศึกษาการใช้งานแอปพลิเคชันเสียง และที่สำคัญควรศึกษาเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Voice Search จาก Google โดยละเอียด

และนั่นก็คือความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับเทรนด์การทำ SEO ปี 2021 ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากปรับปรุงคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้ทันสมัยเข้ากับเทคโนโลยีแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เจ้าของเว็บไซต์ควรให้ความสำคัญคือ ข้อกำหนดของ Google ในการปรับปรุงเว็บไซต์ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับหน้าแรกใน Google ได้ง่ายขึ้นแล้ว

post

ความสำคัญและประโยชน์ของ keyword SEO

การประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ออนไลน์ให้เป็นที่รู้จักจะต้องมีการทำการตลาด ซึ่งวิธีที่นิยมมากในปัจจุบันก็คือ การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เพื่อให้เว็บไซต์มีอันดับที่ดีในหน้าสืบค้นด้วย keyword ต่าง ๆ จากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ซึ่งในการทำ SEO ต้องมีการใช้คีย์เวิร์ด SEO สำหรับการเขียนบทความที่มีคุณภาพ โดยการใช้คีย์เวิร์ดต้องมาจากการสืบค้นใน Google Search แล้วเลือกคำที่ตรงกับสินค้าและบริการที่มีในเว็บไซต์คุณ มาเขียนโดยให้กระจายอยู่ในบทความอย่างน้อย 2-3 แห่ง โดยคีย์เวิร์ด SEO สามารถแยกออกได้เป็น ประเภทต่าง ๆ ดังนี้

1. Niche Keyword เป็นคำค้นหาที่มีความเฉพาะเจาะจง จะพบกับเว็บไซต์ที่เน้นการขายสินค้าในหมวดหมู่นั้น ๆ เช่น มีการระบุชื่อรุ่นของโทรศัพท์มือถือ Notebook รองเท้ากีฬา เป็นต้น

2. Widely Keyword เป็นคำสั้น ๆ มักจะใช้กับการเขียนบทความ SEO ที่เป็นการให้ความรู้ทั่วไป เช่น โรงแรม ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว รองเท้าผู้ชาย เป็นต้น

3. Misspelling Keyword นั้นเกิดจากการสะกดผิด เช่น คำว่า Google ภาษาไทย เขียนเป็น กูเกิล และ กูเกิ้ล ซึ่งจะมีการใช้ทั้ง 2 แบบเขียนในบทความ เป็นต้น

4. Long-tailed Keyword เป็นคีย์เวิร์ดที่มีส่วนขยายความ ซึ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เช่น ร้านขายดอกไม้ออนไลน์โคราช รีสอร์ทแอนด์สปาเชียงใหม่ เป็นต้น เพราะว่าเป็นให้ผลการสืบค้นที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น

Keyword SEO สำคัญต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ เนื่องจากระบบอัลกอริทึ่มของ Search Engine อย่าง Yahoo , Google จะนำวิเคราะห์คุณภาพบทความจากการใส่ Keyword SEO โดยผู้เขียนบทความ SEO จะต้องระมัดระวังการใส่คีย์เวิร์ดที่ซ้ำมากเกินไป ทำให้เนื้อหาอ่านไม่รู้เรื่อง หรือมีการใช้คีย์เวิร์ดที่ยัดเยียดทำให้คนอ่านรู้สึกว่าบทความไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งจะส่งผลทำให้ผลการจัดอันดับเว็บไซต์ต่ำลง ซึ่งจะทำให้เสียโอกาสในการแข่งขันกับเว็บไซต์ของคู่แข่งรายอื่นที่ใช้คีย์เวิร์ดเดียวกัน

นอกจากคีย์เวิร์ด SEO จะใช้สำหรับการเขียนบทความแล้ว ผู้เชี่ยวชาญทางการตลาดออนไลน์ ยังแนะนำให้ใส่ในส่วนของชื่อเพจ URL Address หรือ ลิ้งค์เว็บไซต์ และส่วน Meta Description (ส่วนสรุปเนื้อหาของแต่ละหน้าเพจในเว็บไซต์) ชื่อของรูป ชื่อของคลิป ฯลฯ เพื่อเป็นการสะสมข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ ที่จะช่วยให้ผลการวิเคราะห์อันดับเว็บไซต์ดีขึ้นในระยะยาวด้วย

การทำเว็บไซต์ออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ มียอดผู้ชมเว็บไซต์และยอดขายที่ดี ต้องให้ความสำคัญกับการทำเว็บไซต์ที่สวยงามใช้งานง่าย และต้องสามารถใช้ Keyword SEO อย่างเหมาะสมด้วย จึงจะทำให้มีผลในการจัดอันดับการสืบค้นที่ดีใน Google และ Yahoo ซึ่งส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและเพิ่มยอดขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ความสำคัญ ประโยชน์ของ keyword SEO

post

7 ศัพท์ควรรู้เมื่อต้องการดันอันดับเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรก

ถ้าคุณเป็นมือใหม่ในการเริ่มทำ SEO คุณจำเป็นจะต้องรู้คำศัพท์ที่เอามาใช้กับการทำอันดับ ไม่งั้นคุณจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง มาดูกันเลยว่าทั้ง 7 คำนั้นมีอะไรบ้าง

1.SEO – คำนี้ควรจะเป็นคำแรกของทุกคนที่อยู่ในวงการต้องรู้จัก คำที่เราเรียกกันติดปากว่า “SEO” นั้น ย่อมาจาก “Search Engine Optimization” แปลตรงตัวคือ “กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา” คนไทยส่วนใหญ่จะรู้จักการทำ SEO เฉพาะแต่ในเว็บไซต์ Google แต่รู้หรือไม่ว่าเว็บไซต์ Yahoo หรือ Bing ก็มีระบบการค้นหาแบบนี้ให้บริการอยู่นานแล้วเหมือนกัน ซึ่งในบทความนี้จะกล่าวถึงเฉพาะ Google เท่านั้น

2.Keyword – ลำดับต่อมาคำศัพท์ที่เรามักพบเจอประจำนั้นคือคำว่า Keyword (คีย์เวิร์ด) เป็นคำที่ใช้เรียกแทนคำที่เราต้องการจะดันอันดับ เช่น หากคุณเปิดร้านขายมือถือ คุณต้องการทำอันดับคำว่า “มือถือ” ให้ขึ้นหน้าแรกของ Google คำว่า “มือถือ” นี่แหละที่เป็น Keyword ในการจัดทำอันดับ

3.Content – เมื่อเราได้คีย์เวิร์ดที่เราจะนำมาทำอันดับแล้ว คุณจะต้องมี Content (คอนเทนต์) ที่มีเนื้อหารองรับคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการ เพื่อให้ทาง Google รู้จักและเข้าใจว่าตอนนี้เว็บไซต์ของคุณต้องการดันอันดับคำว่าอะไรอยู่ เช่น เมื่อคุณขายมือถือและต้องการทำอันดับคำว่า “มือถือ” ในเว็บไซต์ของคุณก็ควรจะมีเนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่มีคำว่า “มือถือ” อยู่ด้วย

4.Traffic – คือจำนวนการเข้าเว็บไซต์จากผู้คนทั่วไปที่สนใจ คำว่า Traffic (ทราฟฟิค) มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าคำอื่น ๆ เพราะถ้ายิ่งทำให้มีคนเข้าหาเว็บไซต์ของคุณได้มากขึ้นเท่าไรและยังตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคีย์เวิร์ดด้วยล่ะก็ ทาง Google จะเข้าใจและยกอันดับเว็บไซต์ของคุณให้อยู่สูงขึ้นไปอีก

5.Sitemap – คำนี้หมายถึงโครงสร้างเว็บไซต์ที่คุณสร้างขึ้นมา Sitemap (ไซต์แม็พ) จะแสดงให้ Google เข้าใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีหน้าอะไรบ้างและเกี่ยวข้องกันอย่างไรในแต่ละหน้า

6.Backlink – แบล็คลิงก์ ถือว่าเป็นคำที่มีความสำคัญแทบจะเรียกว่าที่สุดในยุคที่ผ่านมา เพราะเปรียบเสมือนป้ายโฆษณาที่เขียนชื่อหรือบริการของเว็บไซต์คุณแล้วนำไปติดระหว่างทาง ทำให้ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้เห็นว่าเว็บไซต์ของคุณทำอะไรและมีที่ตั้งอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในปัจจุบันจะมีความสำคัญลดลงขนาดที่ไม่จำเป็นต้องทำ เพียงแค่ทาง Google ลดความสำคัญลงไปบ้างเท่านั้นเอง

7.Black Hat SEO & White Hat SEO – เป็นการเรียกเปรียบเทียบระหว่างการทำ SEO แบบถูกต้องตามกฏของ Google หรือทำแบบผิดกฏเท่านั้นเอง แบ่งเป็น Black Hat (แปลว่า “หมวกดำ”) คือการทำ SEO โดยการใช้วิธีใด ๆ ก็ตามที่สามารถทำอันดับให้กับเว็บไซต์ได้โดยไม่คำนึงถึงกฏของ Google ส่วน White Hat (แปลว่า “หมวกขาว”) คือการทำ SEO โดยใช้วิธีที่ถูกต้องทำตามกฏของทาง Google 100%

ยังมีคำศัพท์อีกหลายคำที่มีความสำคัญกับการทำ SEO แต่หวังว่าใน 7 คำที่ได้นำเสนอในบทความนี้จะสามารถขยายความเข้าใจให้กับคุณได้มากขึ้นและช่วยให้การทำอันดับของคุณไม่หลงทาง

7 ศัพท์ควรรู้เมื่อต้องการดันอันดับเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรก