post

ทำไมจึงควรทำ SEO ตั้งแต่เนิ่นๆ ที่เปิดเว็บไซต์

SEO เป็นเทคนิคที่นักการตลาดชั้นนำแนะนำให้ผู้ที่กำลังคิดเปิดเว็บไซต์ที่เป็นคนรุ่นใหม่ยุค 2019 ทำตั้งแต่เนิ่น ๆ เนื่องจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการได้มากยิ่งขึ้น เสริมอำนาจในการแข่งขันทางการตลาดได้สูงเทียบเคียงกับเว็บไซด์ที่เปิดมานานนับ 10 ปี ขอเพียงมีความสม่ำเสมอในการทำ SEO เท่านั้น

การทำ SEO Search Engine Optimization ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ

1. On-Page SEO เป็นการออกแบบและปรับปรุงโครงสร้างภายในเว็บไซต์และองค์ประกอบต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ได้แก่

การผลิตบทความที่ใช้ Keyword เหมาะสม ไม่ใส่เกิน 3-4 Keyword ต่อหนึ่งเรื่องโดยมีการกระจายอยู่ในส่วนต่าง ๆ ที่ทำให้บทความอ่านแล้วธรรมชาติ ที่สำคัญ คือ ต้องมีความทันสมัยในเนื้อหา และไม่มีการละเมิดลิขสิทธิ์จากเพจอื่น อันทำให้บทความนั้นกลายเป็นสแปม (Spam) ที่ทำให้อันดับ SEO ร่วงลงไปได้

การออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานได้ง่าย ทั้งในหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีการวิจัยว่า ผู้บริโภคยุคใหม่ใช้โทรศัพท์มือถือในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ผู้ที่กำลังคิดทำเว็บไซต์ในปีนี้ จึงควรคิดและใส่ใจองค์ประกอบด้านนี้ให้มาก

การคิดโลโก้และสีธีมที่จะใช้ประจำเว็บไซต์ ควรจะสื่อสารถึงแบรนด์ที่ชัดเจน เช่น คุณผลิตสินค้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ก็ควรจะใช้สีประจำเพจ เป็นสีน้ำตาล สีครีม สีเขียว ที่สื่อสารถึงความปลอดภัย ไร้สารพิษ เป็นต้น

2. Off-Page SEO เป็นการเชื่อมโยงเว็บไซต์ทางธุรกิจของคุณ เข้ากับเว็บไซต์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่ขายสินค้าในหมวดที่เชื่อมโยงกันได้ เช่น คุณขายผลิตภัณฑ์จำพวกของใช้เด็ก ก็สามารถเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนลิงก์กับเว็บไซต์ที่ขายสินค้าสำหรับแม่ตั้งครรภ์ ของเล่นเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ ฯลฯ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังสามารถแนะนำข้อมูลที่มีประโยชน์แก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ที่รวมตัวกันในห้องแชทต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสนใจในการดูแลสุขภาพด้วยการเลือกบริโภคน้ำสะอาด และน้ำผักผลไม้สดยิ่งขึ้น กรณีที่คุณขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น เครื่องกรองน้ำ เครื่องปั่นน้ำผลไม้ เครื่องสกัดแยกกากผักผลไม้ เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า เทคนิคการทำ SEO เป็นสิ่งที่สามารถเริ่มได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ในการออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อให้ไม่ต้องแก้ไขในภายหลัง อันจะเป็นการเสียโอกาสในการแข่งขันกับธุรกิจรายอื่น ทั้งยังเป็นวิธีที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณาให้ Search Engine แม้แต่บาทเดียว

หวังว่าบทความนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกท่านที่ต้องการเปิดเว็บไซต์ทำธุรกิจออนไลน์ และให้ความสำคัญกับการทำ SEO ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นยิ่งขึ้น เพื่อให้ประสบความสำเร็จทั้งด้านยอดขายและมีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะยาว

Off Page SEO เป็นการเชื่อมโยงเว็บไซต์

post

ทำไมทำธุรกิจการโรงแรมจึงต้องทำเว็บไซต์ SEO

การทำรีสอร์ตและการโรงแรมเป็นประเภทธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีความผันผวนมาก และระบบเศรษฐกิจส่งผลทำให้การท่องเที่ยวลดน้อยลงโดยภาพรวม

นักธุรกิจกลุ่มการโรงแรมจึงจำเป็นต้องทำเว็บไซต์เพื่อให้มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นห้องพักในวันต่าง ๆ ตามเทศกาลด้วย

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นเทคนิคการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ควบคู่กับการเสริมภาพลักษณ์ของโรงแรมได้ โดยนักธุรกิจการโรงแรมต้องให้ความสำคัญกับ 2 องค์ประกอบหลัก คือ

1. ส่วน On-Page SEO ได้แก่

การเลือก Keyword ที่เหมาะสม ตรงกับการสืบค้นของกลุ่มนักท่องเที่ยว เช่น รีสอร์ตของคุณเหมาะกับนักท่องเที่ยวกลุ่มใด วัยทำงาน เดินทางคนเดียว หมู่คณะหรือแบบครอบครัว คนไทยหรือชาวต่างชาติ จะต้องเลือก Keyword ที่เหมาะสมในการเขียนบทความและหัวข้อที่ดึงดูดใจให้คนเข้ามาคลิกชมเพจ

คุณภาพของบทความ ต้องเลือกทีมนักเขียนที่มีประสบการณ์ในการท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนักท่องเที่ยวมักมองหาสถานที่แปลกใหม่ที่ใกล้กับโรงแรมที่พัก หากเลือกทีมนักเขียนที่ไม่สามารถผลิตเนื้อหาเชิญชวนให้รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวได้ ก็จะทำให้การทำ SEO ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร (ทั้งนี้ ต้องไม่มีการคัดลอกข้อมูลจากแหล่งอื่น เพราะจะทำให้ถูกลดอันดับ SEO และเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย)

เลือกธีมสีตัวอักษร ออกแบบโลโก้ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์ เพราะจะทำให้ลูกค้าจดจำสถานที่พักของคุณได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ควรเลือกสีให้ความรู้สึกเป็นมิตรและเป็นกันเองกับนักท่องเที่ยว เช่น โทนสีอบอุ่น อย่างสีน้ำตาล สีครีม สีเขียว เป็นต้น

การสร้างสื่อหรือคลิปที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของห้องพักรีสอร์ต รวมถึงบรรยากาศทั้งภายในและโดยรอบของโรงแรม โดยต้องสอดคล้องกับ Keyword ที่เลือกใช้

2. ส่วน Off-Page SEO

เป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ตามห้องสนทนาต่าง ๆ เช่น Pantip หรือ Facebook เพื่อให้ผู้ที่สนใจอ่าน ทั้งนี้ หากมีผู้ขอคำแนะนำสถานที่พัก คุณก็สามารถแปะลิงก์เว็บไซต์โรงแรม เพื่อให้เกิด Traffic มาที่เว็บไซต์ จะทำให้เพิ่มอันดับ SEO ในการค้นหาดีขึ้น และเพิ่มฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นด้วย

หากต้องการเพิ่มยอดจองห้องพักให้สูงขึ้นตลอดทั้งปี ควรเร่งศึกษาการทำ SEO และปรึกษานักพัฒนาเว็บไซต์หรือผู้ออกแบบเว็บไซต์ที่มีประสบการณ์ เพื่อการปรับปรุงให้เหมาะสมตามหลักเกณฑ์ของ Search Engine ทั้ง Bing, Yahoo และ Google แม้การทำ SEO ต้องใช้เวลาในการเห็นผล 6 เดือนถึง 1 ปี แต่ก็นับว่าคุ้มค่ากับผลที่ได้ในระยะยาว

จากที่กล่าวมา จึงสรุปได้ว่าการทำเว็บไซต์ SEO มีความสำคัญต่อเว็บไซต์การโรงแรม ให้ถูกจัดอยู่ในอันดับการสืบค้นที่ดีขึ้น ส่งผลต่อให้ธุรกิจการโรงแรมของคุณได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา

ทำไมทำธุรกิจการโรงแรมจึงต้องทำเว็บไซต์ SEO

post

จะขายของออนไลน์ ต้องรู้จัก SEO

การทำ SEO เป็นเทคนิคการตลาดที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน สอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจที่มีการซื้อขายผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก

การทำ SEO จึงเป็นช่องทางที่ผู้ขายสินค้าออนไลน์ยุคปัจจุบันต้องทำความรู้จัก เพื่อให้เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและมีความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งทางธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization จะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือส่วน On-page SEO และส่วน Off-page SEO

1. ส่วน On-page SEO เป็นการพัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานให้สะดวกสวยงาม เช่น การทำหน้าจอให้เป็นหมวดหมู่สินค้าอย่างเหมาะสม แยกพื้นที่โฆษณาให้ชัดเจน การเลือกสีที่สบายตาเป็นธีมของเว็บไซต์และเป็นเอกลักษณ์

การออกแบบฟอนต์ตัวอักษรที่ให้ความรู้สึกสอดคล้องกับแบรนด์สินค้า รวมถึงการใส่เนื้อหาหรือ Content ที่มีประโยชน์ต่อผู้ที่เข้ามาหาข้อมูลจากเว็บไซต์

2. Off-page SEO จะเป็นการสร้างลิงก์เพื่อเชื่อมโยงเว็บไซต์ของคุณกับเว็บไซต์ภายนอก ทำให้สามารถเพิ่มกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นจำนวนมาก เช่น การแนะนำเว็บไซต์ของคุณในห้องสนทนาที่เกี่ยวกับปัญหาการใช้สินค้าประเภทเดียวกับที่คุณจำหน่าย ซึ่งจะเกิดการขยายวงในโลกโซเชียลหรือมีการบอกต่อเว็บไซต์ไปเรื่อย ๆ หรืออาจจะเกิดจากบุคคลอื่นสร้างลิงก์มาสู่เว็บไซต์ขายสินค้าของคุณก็ได้เช่นกัน

การทำ SEO ให้เว็บไซต์ขายของออนไลน์ มีข้อดีหลายประการ ดังนี้

1. ทำให้ลดต้นทุนทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การพัฒนาเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับระบบของ Bing, Yahoo หรือ Google ซึ่งเป็น Search Engine อันดับต้น ๆ ของโลกได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้คุณไม่ต้องเสียจ้างบริษัททำการโฆษณาประชาสัมพันธ์อีกหลายหมื่นหลายแสนบาทต่อเดือนเลยทีเดียว

2. ตัดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายแอบแฝงจาก Search Engine เนื่องจากการทำ SEO เพื่อให้มีอันดับสูงในหน้าต่างการสืบค้น ไม่สามารถที่จะทำการจ่ายเงินซื้อพื้นที่โฆษณาได้ ต้องมาจากการพัฒนาคุณภาพเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับระบบ SEO เท่านั้น จึงไม่มีการเรียกเก็บเงินจาก Search Engine ให้ต้องกังวลใจทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างแน่นอน

3. เพิ่มยอดขายได้ทวีคูณ จากลูกค้าเก่าและใหม่เนื่องจากเมื่อลูกค้าเก่าได้มีโอกาสเห็นเว็บไซต์ของคุณ จะเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมาได้

ส่วนลูกค้าใหม่ที่เห็นเว็บไซต์ขายสินค้าของคุณ ก็จะเป็นช่องทางเลือกใหม่ ๆ ในการซื้อสินค้า การทำ SEO เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยทำให้คุณได้ลูกค้าทั้งสองกลุ่มนี้ จนเพิ่มยอดขายได้ชัดเจนในเวลาไม่นาน

จะเห็นได้ว่าการทำ SEO เป็นเทคนิคที่ให้ประโยชน์ได้หลากหลายช่วยประหยัดต้นทุนธุรกิจ เพิ่มลูกค้าควบคู่กับยอดขายได้ในเวลาเดียวกัน หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกท่านเห็นข้อดีของการทำ SEO และรีบศึกษาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้สูงสุด

การทำ SEO เป็นเทคนิคการตลาดที่ได้รับความนิยมมาก