post

ข้อดีและข้อเสียของ Seo

ข้อดีของ SEO

1. ทัศนวิสัยและการเข้าชมที่เพิ่มขึ้น : SEO ช่วยปรับปรุงการมองเห็นเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหา ซึ่งนำไปสู่การเข้าชมทั่วไปที่สูงขึ้น เนื่องจากผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะคลิกผลลัพธ์ที่อยู่ในอันดับสูงสุด

2. การตลาดที่คุ้มค่า : เมื่อเปรียบเทียบกับการโฆษณาแบบเสียเงิน SEO นั้นคุ้มค่าในระยะยาว เมื่อหน้าเว็บได้รับการปรับให้เหมาะสมและติดอันดับที่ดีแล้ว ก็สามารถดึงดูดการเข้าชมแบบออร์แกนิกต่อไปได้โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาอย่างต่อเนื่อง

3. ความน่าเชื่อถือและความน่าเชื่อถือ : เว็บไซต์ที่ปรากฏที่ด้านบนของผลการค้นหามักถูกมองว่าน่าเชื่อถือและน่าเชื่อถือจากผู้ใช้ SEO ช่วยสร้างชื่อเสียงในโลกออนไลน์ในเชิงบวก

4. ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น : SEO เกี่ยวข้องกับการปรับด้านเทคนิคและเนื้อหาของเว็บไซต์ให้เหมาะสม ซึ่งนำไปสู่ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราตีกลับลดลงและเพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้

5. การเข้าชมเป้าหมาย : SEO ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดเป้าหมายคำหลักเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนได้ ทำให้มั่นใจได้ว่าปริมาณการเข้าชมที่พวกเขาดึงดูดมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้ามากขึ้น

6. กลยุทธ์ระยะยาว : ประโยชน์ของ SEO ต่างจากกลยุทธ์การตลาดระยะสั้นตรงที่สะสมและอาจมีผลกระทบที่ยั่งยืน ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่อง เว็บไซต์สามารถรักษาหรือปรับปรุงอันดับการค้นหาได้ตลอดเวลา

7. ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า : เครื่องมือวิเคราะห์เว็บที่ใช้ร่วมกับ SEO ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจการตั้งค่าของผู้ใช้และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมตามนั้น

8. การเข้าถึงทั่วโลก : SEO ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงผู้ชมทั่วโลก ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพที่เหมาะสม เว็บไซต์สามารถดึงดูดผู้เข้าชมจากภูมิภาคและประเทศต่างๆ

ข้อเสียของ SEO

1. ใช้เวลานาน : SEO เป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป และต้องใช้เวลาจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่สำคัญ ต้องใช้ความอดทน โดยเฉพาะเว็บไซต์ใหม่หรือเว็บไซต์ที่มีการแข่งขันสูง

2. การเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมที่คาดเดาไม่ได้ : เครื่องมือค้นหาจะอัปเดตอัลกอริธึมบ่อยครั้ง และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจส่งผลต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์ การปรับตัวให้เข้ากับการอัปเดตอัลกอริทึมอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายและอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ SEO

3. การแข่งขันที่รุนแรง : ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง การบรรลุและรักษาอันดับสูงสุดอาจเป็นเรื่องยาก คู่แข่งยังลงทุนใน SEO ทำให้การก้าวนำหน้าเป็นความท้าทายอย่างต่อเนื่อง

4. การพึ่งพาเครื่องมือค้นหา : การใช้ SEO เพียงอย่างเดียวเพื่อการเข้าชมทำให้เว็บไซต์เสี่ยงต่อความผันผวนในการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหา แนะนำให้กระจายแหล่งที่มาของการเข้าชมเพื่อลดความเสี่ยงนี้

5. การลงทุนระยะแรก : แม้ว่า SEO ระยะยาวจะคุ้มค่า แต่ก็อาจมีการลงทุนเริ่มแรกในการจ้างผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือ และทรัพยากรเพื่อใช้กลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพ

6. ไม่รับประกันผลลัพธ์ : ไม่รับประกันความสำเร็จของ SEO แม้จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างพิถีพิถัน แต่ก็ไม่รับประกันว่าจะขึ้นสู่อันดับสูงสุด และปัจจัยภายนอกอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์

7. ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคที่ต้องการ : SEO ที่มีประสิทธิภาพมักต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคและการอัปเดตอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงในอัลกอริธึมของเครื่องมือค้นหา

8. ความเสี่ยงหมวกดำ : บุคคลหรือบริษัทบางแห่งอาจหันไปใช้กลยุทธ์ SEO ที่ผิดจรรยาบรรณหรือ “หมวกดำ” เพื่อบิดเบือนอันดับการค้นหา การมีส่วนร่วมในแนวปฏิบัติดังกล่าวอาจนำไปสู่บทลงโทษและสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของเว็บไซต์ในระยะยาว

post

ข้อดี เมื่อทำการตลาดผ่าน Google จาก SEO

การตลาดออนไลน์ในปัจจุบันมี 4 ช่องทาง คือ ช่องทางที่หนึ่ง Search Engine Marketing ซึ่งเป็นโปรแกรมในการค้นหาต่าง ๆ เช่น Google, Yahoo เป็นต้น ช่องทางที่สอง Social Marketing เช่น Facebook, Instagram, line ช่องทางที่สาม VDO Marketing เช่น Youtube ช่องทางที่สี่ Free Classified เว็บไซต์ลงประกาศฟรี 4 ช่องทางที่กล่าวไว้ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหนก็มีความสำคัญในการทำธุรกิจ แต่บทความนี้เราจะมาบอกข้อดีเพียงหนึ่งช่องทาง สำหรับคนที่สนใจการตลาดผ่าน Google ด้วยการทำ Search Engine Optimization หรือ SEO

ช่วยให้เว็บไซต์ติดในอันดับที่ดี แบบฟรี ๆ

การทำการตลาดผ่าน Google มี 3 รูปแบบ โดยรูปแบบแรก คือ การทำ SEO เป็นรูปแบบที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับแต่งเว็บไซต์และยังสามารถทำให้ติดอันดับที่ดีในหน้าแรกบน Google ซึ่งการทำ SEO ถือว่ามีความแตกต่างจากรูปแบบที่ 2 คือ Google Ads ซึ่งรูปแบบนี้เป็นการลงโฆษณาที่ติดหน้าแรกภายใน 15 นาทีหลังจากโฆษณาได้อนุมัติ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเมื่อมีคนคลิกเว็บไซต์บน Google และรูปแบบที่ 3 คือ GDN เป็นการลงโฆษณาที่เสียค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกันกับรูปแบบที่ 2 แต่สามารถกระจายโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าได้อย่างกว้างขวางมากขึ้นบนเว็บไซต์ที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับ GDN

หน้าเพจเว็บไซต์อยู่ได้นาน

การทำ SEO ด้วยตัวเอง ทำให้คนเข้าเว็บไซต์ทุกวันโดยไม่ต้องทำโฆษณาอะไรเลย ไม่เสียค่าการตลาดหรือค่า SEO แต่อย่างใด เพราะแค่เขียนบทความก็เพียงพอแล้ว ก็จะทำให้คนเข้าชมจนกลายเป็นลูกค้าได้และหน้าเพจของคุณจะอยู่ได้นานถึง 6 เดือน – 5 ปี โอกาสที่จะได้รับรายได้ค่อนข้างเสถียร ซึ่งแตกต่างกับการทำโฆษณาเว็บไซต์ที่มีช่วงอายุ หมายความว่า เมื่อได้มีการยิงโฆษณาในหนึ่งเดือน ก็ต้องเปลี่ยนโฆษณาใหม่ อีกหรือกรณีที่บางคนเงินหมด โฆษณาก็จะหายไป การทำ SEO จึงประหยัดและอยู่คงทนกว่า คิดเล่นๆ หากทำเว็บไซต์ติดคีย์ บ้านผลบอล อันดับต้นๆ แทนที่จะต้องมาเสียค่าคลิกละ 10 บาทวันละหลายพันคลิก หากเว็บติดอันดับก็ประมาณค่าใช้จ่ายเดือนละหลายแสนเลยล่ะ

พื้นฐานการทำ SEO ไม่ได้ยากอย่างที่คิด

คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนที่ทำ SEO ในประเทศไทย มักคิดว่าการทำ SEO เป็นเรื่องยาก แต่ในความเป็นจริงเพียงทำเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับคำค้นหา หรือให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน ด้วยการใช้เวลาเขียนบทความไม่กี่ชั่วโมงต่อเดือน ก็จะส่งผลทำให้โอกาสการทำเว็บไซต์นั้นขึ้นอันดับได้

การทำการตลาดผ่าน Google ด้วย SEO ถึงแม้ว่าจะมีข้อดีดังกล่าวข้างต้น แต่ก็มีข้อจำกัดบ้างเล็กน้อย คือ การที่เว็บไซต์จะติดหน้าแรกหรืออันดับที่ดีบน Google ได้ ต้องอาศัยเวลาโดยเฉลี่ยประมาณครึ่งปีเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม การทำ SEO ถือว่าเป็นการทำการตลาดที่ดีอีกวิธีหนึ่ง ที่ควรเรียนรู้และลงมือทำ โดยระหว่างที่รอผลการจัดลำดับ ก็ยังสามารถใช้วิธีอื่น ๆ เพิ่มเติมไปพร้อมกันได้ด้วย เช่น การลงโฆษณา หรือลงประกาศในมาร์เก็ตเพลสต่าง ๆ เพราะว่าการทำการตลาดไม่ได้จำกัดแค่วิธีใดวิธีหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องอาศัยทุกช่องทางร่วมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของธุรกิจได้เร็วและมากที่สุด